ฟิล์ม DFT PET (Polyethylene Terephthalate)

ฟิล์ม DFT

ฟิล์ม DFT (Digital Film Transfer) หรือ DTF (Direct To Film) คือ แผ่นฟิล์มทรานเฟอร์ใสที่มาในรูปแบบม้วน (Roll) หรือ แบบแผ่นเหมือนกระดาษถ่ายเอกสาร ซึ่งใช้เป็นสื่อกลางในการพิมพ์ลวดลายด้วยหมึกพิเศษ ก่อนที่จะนำลวดลายนั้นไปรีดร้อนติดบนวัสดุต่างๆ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า หรือหมวก มันคือกระดาษทรานเฟอร์แบบพิเศษ แต่มันไม่ใช่กระดาษที่เราใช้กับเครื่องพิมพ์ทั่วไป มันเป็นฟิล์มที่มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับการพิมพ์ DTF หรืออาจจะเป็นแผ่นๆ ที่ตัดมาแล้วก็ได้ ม้วนฟิล์มนี้จะถูกป้อนเข้า เครื่องพิมพ์ DTF โดยเฉพาะ ซึ่งจะพิมพ์หมึกสีและหมึกขาวลงบนฟิล์ม หลังจากพิมพ์และโรยผงกาวแล้ว ม้วนฟิล์มนี้จะถูกนำไปอบและจากนั้นนำไปรีดร้อนบนวัสดุ เพื่อให้ลวดลายที่อยู่บนฟิล์มถ่ายโอนไปติดบนวัสดุนั้นๆ

DFT คือ หนึ่งในเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการพิมพ์ผ้าอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะในยุคที่ความรวดเร็ว คุณภาพ และความคุ้มค่ากลายเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการต่างมองหา DFT หรือ Direct Film Transfer มีการพัฒนาให้เหมาะสมกับกระบวนการใช้งานมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพาการพิมพ์ตรงลงบนผ้าอย่าง DTG (Direct to Garment) ทำให้ได้คุณภาพงานที่สม่ำเสมอ ใช้กับผ้าได้หลายชนิด ไม่ต้องกังวลเรื่องผิวผ้าที่ไม่เหมาะสมต่อการดูดซึมหมึก เช่น โพลีเอสเตอร์ ไนลอน หรือผ้าผสมต่าง ๆ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างยิ่งของเทคโนโลยีนี้ ทั้งนี้ DFT ยังช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเตรียมงานไว้ล่วงหน้า แล้วจึงนำไปกดรีดติดลงบนผ้าในภายหลัง ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความยืดหยุ่นในการผลิตได้มากขึ้น

สกรีน DFT

วัสดุที่ใช้ในการผลิตฟิล์ม DFT มีอะไรบ้าง

วัสดุที่ใช้ผลิต ฟิล์ม DFT คือ หัวใจสำคัญที่กำหนดคุณภาพของการพิมพ์ ซึ่งประกอบไปด้วยวัสดุหลายชนิดที่ทำหน้าที่เฉพาะในแต่ละชั้น

  • ฟิล์ม DFT หลักจะเป็นพลาสติก PET (Polyethylene Terephthalate) ซึ่งมีคุณสมบัติทนความร้อนสูง ผิวเรียบ และสามารถเคลือบชั้นเคมีเพิ่มเติมเพื่อรองรับหมึกพิมพ์ได้ดี 
  • หมึก (Ink Receptive Layer) ซึ่งถูกออกแบบมาให้สามารถยึดเกาะกับหมึกพิมพ์ชนิดพิเศษอย่างหมึก DFT ได้โดยไม่แพร่กระจาย หรือซึมผ่านชั้นฟิล์ม ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากหมึกทั่วไป โดยชั้นนี้จะเคลือบด้วยสารโพลีเมอร์บางชนิดที่ผ่านการวิจัยอย่างละเอียดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คมชัด เมื่อนำฟิล์มผ่านการพิมพ์แล้ว
  • เคลือบกาวร้อน (Hot Melt Powder) ซึ่งเมื่อผ่านการอบแล้วจะทำให้พร้อมสำหรับการรีดบนผ้า

ทั้งนี้ วัสดุทุกชั้นจะต้องมีคุณสมบัติทนต่อความร้อน ไม่เปลี่ยนรูป ไม่หดตัว และสามารถถ่ายเทภาพพิมพ์ไปยังเนื้อผ้าได้สมบูรณ์แบบ การเลือกฟิล์มที่มีคุณภาพจะส่งผลโดยตรงต่อความคมชัด สีสัน ความยืดหยุ่น และอายุการใช้งานของงานพิมพ์

ประเภทของฟิล์ม DFT

ประเภทของฟิล์ม DFT ที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้งาน

ฟิล์ม DFT ไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียว แต่ถูกออกแบบให้หลากหลายเพื่อรองรับความต้องการที่ต่างกันของผู้ใช้ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ฟิล์ม DFT แบบหนา ฟิล์ม DFT แบบบาง และ ฟิล์ม DFT แบบพิเศษสำหรับงานละเอียดหรือมีเทกซ์เจอร์เฉพาะ ฟิล์ม DFT แบบหนานั้นเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานสูง เช่น เสื้อแจ็คเก็ต ผ้าไนลอน หรืออุปกรณ์กีฬากลางแจ้ง เพราะสามารถทนแรงดึง และสภาพอากาศได้ดีกว่า ส่วนฟิล์มแบบบางนั้นเหมาะกับเสื้อยืดทั่วไป เสื้อผ้าแฟชั่น หรือผ้าเนื้อละเอียดที่ต้องการความรู้สึกเบาสบาย ไม่หนาจนเกินไป การเลือกใช้ฟิล์มแบบใดจึงควรพิจารณาจากลักษณะของงานและประเภทของผ้าที่จะพิมพ์ลงไป ส่วนฟิล์ม DFT แบบพิเศษ เช่น ฟิล์มที่ให้ผิวสัมผัสแบบด้านหรือแบบเงา ก็มีให้เลือกเช่นกันเพื่อให้เหมาะกับดีไซน์ของแต่ละงานอย่างแท้จริง

ฟิล์ม DFT ข้อสำคัญ

ขั้นตอนการใช้งานฟิล์ม DFT อย่างมืออาชีพ

แม้ฟิล์ม DFT จะถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย แต่การเข้าใจขั้นตอนอย่างถูกต้องก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เริ่มจากการออกแบบลวดลายบนโปรแกรมกราฟิกที่สามารถแยกเลเยอร์สีและความโปร่งแสงได้อย่างชัดเจน จากนั้นนำลวดลายนั้นมาพิมพ์ลงบนฟิล์มโดยใช้เครื่องพิมพ์ที่รองรับหมึก DFT โดยพิมพ์กลับด้าน (Mirror) เพื่อให้ด้านที่สัมผัสกับผ้าเป็นภาพที่ถูกต้อง หลังพิมพ์เสร็จ จะต้องโรยกาวร้อน (Hot Melt Powder) บนพื้นที่พิมพ์ แล้วจึงนำไปอบในอุณหภูมิที่เหมาะสม (โดยทั่วไปประมาณ 100-120°C) จนกาวละลายและยึดติดกับฟิล์ม เมื่อถึงขั้นตอนการใช้งานจริง เพียงวางฟิล์มลงบนผ้าในตำแหน่งที่ต้องการ ใช้เครื่องรีดร้อน (Heat Press) ประมาณ 10-15 วินาที ด้วยแรงกดและอุณหภูมิที่เหมาะสม จากนั้นปล่อยให้เย็นแล้วจึงลอกฟิล์มออก เพียงเท่านี้ก็จะได้งานพิมพ์ที่คมชัด ติดแน่น และพร้อมจำหน่ายทันที

วิธีการเลือกฟิล์ม DFT ให้เหมาะสมกับงาน

การเลือกฟิล์ม DFT ที่เหมาะสมกับงานของคุณไม่เพียงแต่พิจารณาจากชนิดของผ้าเท่านั้น แต่ยังต้องดูปัจจัยอื่น ๆ เช่น ลักษณะของภาพ ความละเอียดของลวดลาย ความทนทานที่ต้องการ รวมถึงงบประมาณและเครื่องมือที่มีอยู่ในระบบงานของคุณ หากคุณต้องการความทนทานสูงควรเลือกฟิล์มแบบหนา ซึ่งให้ความทนแรงซักและยืดได้ดีกว่า แต่ถ้างานของคุณเน้นความประณีต มีลายเส้นเล็กหรือสีจำนวนมาก ฟิล์มแบบบางหรือแบบโปร่งใสจะตอบโจทย์มากกว่า เพราะสามารถแสดงผลรายละเอียดได้ชัดเจนกว่า สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือการเลือกแบรนด์ฟิล์มที่มีมาตรฐานสม่ำเสมอ เพราะบางครั้งฟิล์มราคาถูกอาจมีปัญหาทั้งในขั้นตอนการพิมพ์และการรีด เช่น ลอกไม่หมด หรือทิ้งคราบกาวบนผ้า ซึ่งล้วนแต่ส่งผลต่อคุณภาพของงานในระยะยาว นอกจากนี้ควรทดสอบความเข้ากันได้ของหมึกและเครื่องพิมพ์กับฟิล์มก่อนใช้งานจริงทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

ข้อดีของการใช้ฟิล์ม DFT แทนการพิมพ์ตรง

ฟิล์ม DFT มีข้อดีหลายประการที่ทำให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในวงการสกรีนและพิมพ์ผ้า หนึ่งในจุดเด่นสำคัญคือความยืดหยุ่นในการผลิต เพราะสามารถแยกขั้นตอนการพิมพ์ออกจากขั้นตอนการรีด ทำให้สามารถพิมพ์เตรียมล่วงหน้าไว้จำนวนมาก แล้วจึงนำไปรีดเมื่อมีคำสั่งซื้อ หรือเมื่อต้องการผลิตจริง ซึ่งช่วยลดแรงงาน เพิ่มความเร็ว และควบคุมคุณภาพได้ดีขึ้น อีกจุดเด่นคือความสามารถในการพิมพ์ลงบนผ้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นผ้าฝ้าย ผ้าโพลีเอสเตอร์ ผ้าไนลอน หรือผ้าผสมแบบต่าง ๆ โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนเครื่องมือ หรือสารเคมีอย่างมากมาย นอกจากนี้ ยังให้คุณภาพของภาพพิมพ์ที่มีความละเอียดสูง สีสันสดใส ติดทนนาน และมีความยืดหยุ่น ไม่แตกเมื่อซักหรือยืดผ้า อีกทั้งยังเหมาะกับงานพิมพ์จำนวนน้อยถึงปานกลาง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยและนักออกแบบที่ต้องการทดสอบตลาดก่อนผลิตจำนวนมาก

ฟิล์ม DFT ต่างจาก DTF อย่างไร

แม้ชื่อจะใกล้เคียงกันแต่ฟิล์ม DFT ต่างจาก DTF อยู่บ้างในรายละเอียด โดย DTF (Direct to Film) เป็นเทคโนโลยีที่พิมพ์หมึกลงบนฟิล์มแล้วรีดติดกับผ้าเหมือนกัน แต่ระบบ DFT มักหมายถึงกระบวนการที่ออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในเวอร์ชันที่รองรับเครื่องพิมพ์ขนาดเล็ก หรือเครื่องที่ดัดแปลงจาก Epson ซึ่งทำให้ต้นทุนเริ่มต้นไม่สูงมาก ในขณะที่ระบบ DTF มักต้องการเครื่องพิมพ์เฉพาะทางและมีการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และแรงกดอย่างแม่นยำ ระบบ DFT ยังอาจมีการออกแบบฟิล์มให้เหมาะกับกาวบางประเภทที่ไม่จำเป็นต้องอบร้อนก่อนใช้งาน จึงช่วยประหยัดเวลาและขั้นตอนการทำงาน อีกทั้งยังมักมีการบรรจุฟิล์มเป็นชุดสำเร็จรูปพร้อมใช้งานมากกว่าระบบ DTF ที่เน้นการผลิตในระดับอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ทั้งสองระบบมีความสามารถใกล้เคียงกันในแง่ผลลัพธ์สุดท้าย และในหลายกรณีชื่อ DTF และ DFT ก็ถูกใช้สลับกันขึ้นอยู่กับบริบทของตลาดแต่ละประเทศ

สกรีน DFT

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *