ผ้าแบบไหนไม่ต้องรีด

ผ้าแบบไหนไม่ต้องรีด ? หรือ ผ้าไม่ยับ ไม่ต้องรีดคือผ้าอะไร ? เชื่อว่าหลาย ๆ ตอนนี้คงกำลังมองหาผ้าที่จะทำให้ชีวิตที่แสนเร่งรีบ ง่ายลงเพราะ ลดขั้นตอนรีดเสื้อผ้าลงเอาเวลาไปนอนเพิ่มขึ้นแน่ ๆ หลายคนคงเคยเจอปัญหาตื่นเช้ามาแล้วพบว่าเสื้อผ้าที่อยากใส่ยับจนต้องเสียเวลารีดก่อนออกจากบ้าน ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เสียเวลา แต่ยังเปลืองแรงและค่าไฟอีกด้วย คำถามที่หลายคนอยากรู้ก็คือ “ผ้าแบบไหนไม่ต้องรีด” เพราะถ้าเลือกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไม่ยับง่ายก็ช่วยประหยัดเวลาได้มาก

จริง ๆ แล้ว ผ้าไม่ต้องรีด คือผ้าอะไร? คำตอบก็คือผ้าที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น เส้นใยสังเคราะห์ หรือผ้าที่ถูกออกแบบมาให้ไม่เสียทรงง่าย เมื่อซักหรือตากแล้วก็ยังเรียบเนียน ไม่จำเป็นต้องใช้เตารีดช่วยจัดการความยับ ซึ่งทำให้กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับคนทำงาน นักศึกษา หรือใครก็ตามที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ

ปัจจุบันมีเสื้อผ้าให้เลือกหลายชนิดที่จัดอยู่ในกลุ่ม ผ้าไม่ยับ ไม่ต้องรีด เช่น เสื้อเชิ้ตทำงานที่ตากแล้วใส่ได้เลย กางเกงที่ไม่เสียทรง หรือแม้กระทั่งเสื้อยืดแฟชั่นที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบาย ช่วยให้แต่งตัวดูดีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอยยับ ดังนั้น ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เบื่อการรีดผ้าและอยากมีเสื้อผ้าที่พร้อมใส่ทุกเวลา การรู้จัก ผ้าแบบไหนไม่ต้องรีด ถือว่าเป็นคำตอบที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น แถมยังช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีได้ทุกวัน

ผ้าแบบไหนไม่ต้องรีด มีอะไรบ้าง ?

ผ้าใยสังเคราะห์และผ้าธรรมชาติที่ผ่านการผสมหรือปรับแต่งให้ทนทานต่อการยับง่าย จะเป็นกลุ่มของผ้าไม่ยับ ไม่ต้องรีด  ผ้าแบบไหนไม่ต้องรีด ?  จะมีผ้ากลุ่มต่อไปนี้ คือ ผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester) ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและไม่ยับง่าย แม้ซักบ่อยก็ยังคงทรงสวย เหมาะกับเสื้อผ้าทำงานและชุดลำลอง ผ้าไมโครไฟเบอร์ (Microfiber) ผ้าน้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี แถมยังไม่ยับง่าย เหมาะกับเสื้อกีฬา เสื้อยืด และกางเกงที่ต้องการความคล่องตัว ผ้าเรยอนผสมโพลีเอสเตอร์ รวมข้อดีของผ้าเรยอนที่ใส่สบายกับความไม่ยับของโพลีเอสเตอร์ ทำให้ได้ผ้าที่นุ่มนวล ใส่สบาย และยังดูเรียบอยู่เสมอ ผ้าไนลอน (Nylon) ผ้าใยสังเคราะห์ที่ทนทานต่อการยับและน้ำ เหมาะกับเสื้อผ้าเดินทาง เสื้อกันฝน หรือชุดลำลองที่ต้องการความทนทาน ผ้ายีนส์ (Denim) ที่ไม่ค่อยยับ แม้จะเป็นผ้าหนา แต่ผ้ายีนส์ถือว่าเป็นหนึ่งในผ้าที่ไม่ยับง่าย ใส่แล้วดูดีโดยไม่ต้องรีดบ่อย เหมาะทั้งกางเกงและเสื้อแจ็คเก็ต

ผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester) คือ ผ้าใยสังเคราะห์ที่ผลิตจากโพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET) ซึ่งได้จากกระบวนการทางเคมีระหว่างเอทิลีนไกลคอลและกรดเทเรฟทาลิก จัดเป็นหนึ่งในเส้นใยสิ่งทอที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก เนื่องจากมีคุณสมบัติเด่นหลายประการ โดยเฉพาะเรื่อง ความทนทาน ไม่ยับง่าย และ ไม่ต้องรีดบ่อย จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ชอบความสะดวกสบาย

คุณสมบัติของผ้าโพลีเอสเตอร์

1. ไม่ยับง่าย : หลังซักหรือตาก ผ้ายังคงความเรียบ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลารีด

2. แห้งเร็ว : เส้นใยโพลีเอสเตอร์ไม่ดูดซับน้ำมาก จึงใช้เวลาไม่นานในการตากแห้ง

3. ทนทานต่อการใช้งาน : ไม่ขาดง่าย และทนต่อแรงดึงหรือแรงเสียดสีได้ดี

4. น้ำหนักเบา : สวมใส่สบาย เหมาะกับเสื้อผ้าหลากหลายประเภท

5. คงรูป ไม่หดหรือยืดง่าย  : ทำให้เสื้อผ้าดูใหม่ได้นาน

6. ทนต่อเชื้อราและแมลง : จึงเก็บรักษาได้ดี

ผ้าโพลีเอสเตอร์ เหมาะกับคนที่ต้องการเสื้อผ้า ใส่ง่าย ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องรีด และยังเหมาะกับคนที่เดินทางบ่อย หรือทำงานที่ต้องแต่งกายเรียบร้อยอยู่เสมอ เพราะช่วยประหยัดเวลาและคงความเรียบของเสื้อผ้าได้ตลอดวัน

ผ้าไมโครไฟเบอร์ (Microfiber) คือผ้าใยสังเคราะห์ที่ผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ (Polyester) และโพลีเอไมด์ (Polyamide หรือ Nylon) ผสมเข้าด้วยกัน จุดเด่นของเส้นใยไมโครไฟเบอร์คือมีความละเอียดและเล็กกว่าผมมนุษย์หลายเท่า ทำให้เนื้อผ้ามีความนุ่ม เบา และให้สัมผัสที่เรียบเนียน อีกทั้งยังมีคุณสมบัติพิเศษคือ ไม่ยับง่าย ดูแลรักษาง่าย และไม่จำเป็นต้องรีดบ่อย ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันนี้ ผ้าไมโครไฟเบอร์จึงถูกนำมาใช้ทำทั้งเสื้อผ้า เครื่องนอน รวมถึงผ้าสำหรับทำความสะอาด ซึ่งเป็นหนึ่งในวัสดุสิ่งทอที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ

คุณสมบัติของผ้าไมโครไฟเบอร์

1. น้ำหนักเบา : ใส่สบาย ไม่ทำให้รู้สึกหนักหรืออึดอัด

2. ไม่ยับง่าย : หลังซักสามารถตากแล้วใส่ได้เลย ไม่จำเป็นต้องรีด

3. ซึมซับน้ำได้ดี : เส้นใยขนาดเล็กทำให้ดูดซับน้ำและสิ่งสกปรกได้มาก

4. แห้งเร็ว : เพราะไม่กักเก็บน้ำมากนัก

5. นุ่มนวลต่อผิว : ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองง่าย

6. ทนทานต่อการใช้งาน : ไม่ขาดง่าย และเส้นใยยังคงรูปได้ดี

ผ้าไมโครไฟเบอร์ (Microfiber) เป็นผ้าที่ทั้งเบา นุ่ม ซึมซับน้ำได้ดี และไม่ยับง่าย จึงไม่เพียงแต่เป็นตัวเลือกยอดนิยมในเสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นผ้าที่พบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคำตอบสำหรับใครที่กำลังมองหา ผ้าไม่ต้องรีด อย่างแท้จริง

ผ้าเรยอนผสมโพลีเอสเตอร์ คือการนำเส้นใยเรยอน (Rayon) ซึ่งเป็นเส้นใยกึ่งสังเคราะห์ที่ทำจากเซลลูโลสธรรมชาติ มาผสมเข้ากับเส้นใยโพลีเอสเตอร์ (Polyester) ที่เป็นเส้นใยสังเคราะห์ จุดประสงค์ของการผสมคือการรวมเอาข้อดีของทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ผ้าที่ นุ่มสบายแบบเรยอน และ ไม่ยับง่ายแบบโพลีเอสเตอร์ ด้วยการผสมผสานนี้จึงทำให้ผ้าเรยอนผสมโพลีเอสเตอร์ได้รับความนิยมสูง เพราะสวมใส่สบาย ดูแลรักษาง่าย และที่สำคัญคือ ไม่จำเป็นต้องรีดบ่อย

คุณสมบัติของผ้าเรยอนผสมโพลีเอสเตอร์

1. เนื้อผ้านุ่มลื่น : ได้ความรู้สึกสบายและพลิ้วไหวจากเรยอน

2. ไม่ยับง่าย : เพราะมีเส้นใยโพลีเอสเตอร์ช่วยคงรูป

3. สีสวยติดทนนาน : โพลีเอสเตอร์ช่วยให้ผ้าสีสดและไม่ซีดเร็ว

4. แห้งเร็ว : ซักแล้วตากไม่นานก็แห้ง

5. มีความเงางามเล็กน้อย : ทำให้ผ้าดูหรูหราและสวยงาม

6. น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้พอสมควร : สวมใส่ได้ในหลายโอกาส

ผ้าเรยอนผสมโพลีเอสเตอร์เหมาะกับคนที่ชอบเสื้อผ้าเนื้อนุ่มใส่สบาย แต่ก็ยังต้องการความสะดวกสบายในเรื่องการดูแลรักษา โดยเฉพาะคนทำงานที่อยากได้เสื้อผ้า ไม่ยับง่าย ใส่แล้วดูเรียบร้อยโดยไม่ต้องรีดบ่อย รวมถึงผู้ที่ต้องการเสื้อผ้าแฟชั่นที่คงรูปและสีสวยสดนาน เป็นผ้าที่ผสมข้อดีของทั้งใยธรรมชาติและใยสังเคราะห์เข้าไว้ด้วยกัน

ผ้าไนลอน (Nylon) เป็นเส้นใยสังเคราะห์ชนิดแรกของโลก ผลิตขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1935 โดยบริษัทดูปองท์ (DuPont) ประเทศสหรัฐอเมริกา เดิมทีถูกพัฒนามาเพื่อใช้แทนเส้นใยธรรมชาติอย่างไหม และในเวลาต่อมาก็กลายเป็นหนึ่งในเส้นใยที่ได้รับความนิยมสูง เพราะมีคุณสมบัติ แข็งแรง ทนทาน ไม่ยับง่าย และยังดูแลรักษาง่าย จึงถูกนำไปใช้ทั้งในวงการเสื้อผ้าและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ปัจจุบันผ้าไนลอนยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยม โดยเฉพาะในเสื้อผ้าที่ต้องการความเบา คล่องตัว และ ไม่ต้องรีดบ่อย เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่เน้นความสะดวกสบาย

คุณสมบัติของผ้าไนลอน

1. ไม่ยับง่าย : คงรูปดี ไม่ต้องรีดบ่อย

2. แข็งแรงและทนทาน : ทนแรงดึง แรงเสียดสีได้ดีกว่าผ้าใยธรรมชาติ

3. ยืดหยุ่นสูง : คืนตัวได้ดี ไม่เสียรูปง่าย

4. น้ำหนักเบา : ทำให้เสื้อผ้าใส่สบาย เคลื่อนไหวสะดวก

5. แห้งเร็ว : ไม่ดูดซับน้ำมาก

6. ทนต่อแมลงและเชื้อรา : ไม่ขึ้นราและเก็บรักษาง่าย

ผ้ายีนส์ หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อ Denim เป็นผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในเรื่องความหนา ความทนทาน และสไตล์ที่ไม่มีวันตกยุค หลายคนอาจคิดว่าผ้ายีนส์ต้องดูแลยากและยับง่าย แต่จริง ๆ แล้ว ผ้ายีนส์เป็นหนึ่งในผ้าที่ไม่ค่อยยับและไม่จำเป็นต้องรีดบ่อย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่อยากเสียเวลาไปกับการรีดผ้า สาเหตุที่ผ้ายีนส์ไม่ค่อยยับ มาจากโครงสร้างของเส้นใยที่ถูกทอแน่นและหนา ทำให้เนื้อผ้ามีความแข็งแรง และเมื่อเกิดรอยพับเล็ก ๆ ก็จะไม่เห็นชัดเจนเหมือนผ้าบางประเภท เช่น ผ้าฝ้ายหรือผ้าลินิน อีกทั้งผ้ายีนส์ยังมีคุณสมบัติที่เมื่อใส่ไปเรื่อย ๆ รอยยับจะกลายเป็นลายเฉพาะที่ดูเป็นสไตล์แฟชั่นไปในตัว

คุณสมบัติของผ้ายีนส์

1. ความทนทานสูง : ผ้ายีนส์ถูกทอจากเส้นใยฝ้าย (Cotton) ที่มีการทอแบบ Twill Weave ทำให้เส้นใยไขว้กันแน่น แข็งแรง ทนต่อการเสียดสี เหมาะกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวันหรือกิจกรรมที่ต้องใช้ความคล่องตัว

2. ไม่ค่อยยับง่าย : ด้วยโครงสร้างผ้าที่หนาแน่น ทำให้ผ้ายีนส์ไม่ค่อยยับ แม้จะใส่ทั้งวันก็ยังคงรูปได้ดี จึงไม่จำเป็นต้องรีดบ่อยเหมือนผ้าบางชนิด

3. ยิ่งใส่ยิ่งสวย : ผ้ายีนส์มีเอกลักษณ์ตรงที่เมื่อผ่านการสวมใส่และซักไปเรื่อย ๆ จะเกิดลายซีด (Fade) หรือรอยขาดตามธรรมชาติ ทำให้เสื้อผ้าแต่ละชิ้นมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

4. ระบายอากาศได้ดี : แม้ผ้ายีนส์จะดูหนา แต่จริง ๆ แล้วสามารถระบายอากาศได้ดีพอสมควร จึงใส่สบาย ไม่อึดอัดเกินไป

5. ดูแลรักษาง่าย : ไม่จำเป็นต้องซักบ่อย เพียงแค่ตากลมให้ผ้าระบายอากาศก็เพียงพอแล้ว อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องรีดให้ยุ่งยาก

6. แฟชั่นไม่มีวันตกยุค : ผ้ายีนส์ถือเป็นผ้าที่สวมใส่ได้ทุกยุคทุกสมัย เข้ากับสไตล์การแต่งตัวทั้งลำลองและกึ่งทางการ

 

เสื้อผ้าที่ไม่ต้องรีดกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะช่วยประหยัดเวลาและสะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะคนที่ไม่อยากเสียเวลาหน้าตู้รีดผ้า หรือไม่มีอุปกรณ์รีดผ้าให้ยุ่งยาก เสื้อผ้าประเภทนี้จึงตอบโจทย์ได้หลากหลายสถานการณ์ ดังนี้

1. การทำงานและชีวิตประจำวัน : สำหรับคนทำงานที่ต้องแต่งตัวเรียบร้อย เสื้อผ้าไม่ต้องรีดช่วยให้คุณดูดีได้ตลอดวัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอยยับ เช่น เสื้อเชิ้ตโพลีเอสเตอร์ กางเกงสแล็กผสมใยสังเคราะห์ หรือเดรสผ้าที่มีคุณสมบัติทนยับ

2. การท่องเที่ยวและเดินทาง : เวลาออกทริปหรือเดินทางไกล เสื้อผ้าไม่ต้องรีดช่วยลดภาระ ไม่ต้องพกเตารีดหรือหาที่รีดผ้าให้เสียเวลา แถมยังพับเก็บใส่กระเป๋าได้โดยไม่ยับง่าย ทำให้พร้อมใส่ได้ทันที

3. การเรียนและกิจกรรมกลางแจ้ง : นักเรียน นักศึกษา หรือคนที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง เหมาะกับผ้าไม่ต้องรีด เช่น เสื้อกีฬา เสื้อยืดไมโครไฟเบอร์ เพราะระบายอากาศได้ดี ไม่ยับง่าย และดูแลรักษาง่าย

4. การใช้งานในชีวิตที่เร่งรีบ : คนที่มีตารางชีวิตแน่น ๆ เช่น พนักงานออฟฟิศ แม่บ้าน หรือผู้ที่ไม่ชอบเสียเวลาในการดูแลเสื้อผ้า เสื้อผ้าไม่ต้องรีดคือคำตอบ เพราะแค่ซัก ตาก และพับเก็บก็พร้อมใช้งานได้เลย

5. สายแฟชั่นที่ชอบความเรียบง่าย : เสื้อผ้าไม่ต้องรีดในปัจจุบันไม่ได้มีแค่แบบเรียบ ๆ แต่มีดีไซน์หลากหลาย ทั้งชุดลำลอง ชุดทำงาน และชุดออกงาน ช่วยให้แต่งตัวง่ายแต่ยังดูดีในทุกโอกาส

เสื้อผ้าไม่ต้องรีดเหมาะกับ “ทุกคนที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และความมั่นใจในการแต่งตัว” ไม่ว่าจะทำงาน เที่ยว หรือเรียน ก็ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

ผ้าไม่ต้องรีด หรือผ้าที่ ไม่ยับง่าย กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมในวงการ ตัดเย็บเสื้อผ้า เนื่องจากช่วยให้ผู้สวมใส่ ประหยัดเวลาและดูเรียบร้อยตลอดวัน โดยผ้าที่มีคุณสมบัตินี้มักเป็นผ้าใยสังเคราะห์หรือผ้าผสม เช่น โพลีเอสเตอร์ ไมโครไฟเบอร์ เรยอนผสมโพลีเอสเตอร์ หรือไนลอน ผ้าไม่ต้องรีด นิยมใช้ตัดเย็บเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายหลากหลายประเภท ดังนี้

1. เสื้อเชิ้ตทำงาน : เสื้อเชิ้ตโพลีเอสเตอร์หรือผ้าเรยอนผสมโพลีเอสเตอร์ นิยมตัดเย็บเพราะ ไม่ยับง่าย ใส่แล้วดูเรียบร้อยทันที เหมาะกับพนักงานออฟฟิศหรือคนทำงานที่ต้องการความสะดวก

2. กางเกงสแล็กหรือกางเกงลำลอง : ผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือผ้าไมโครไฟเบอร์ ใช้ทำกางเกงที่ ไม่ต้องรีด ช่วยให้ผู้ใส่ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยยับ และยังคงความเรียบและทรงสวยตลอดวัน

3. เสื้อยืดและชุดลำลอง : ผ้าไมโครไฟเบอร์และไนลอน นิยมใช้ทำเสื้อยืดหรือชุดลำลอง เพราะ เบา ใส่สบาย แห้งเร็ว และไม่ยับง่าย

4. ชุดแฟชั่นและเดรส : ผ้าเรยอนผสมโพลีเอสเตอร์ช่วยให้ชุดเดรส พลิ้วสวย ไม่ยับง่าย จึงเหมาะกับงานแฟชั่นและชุดออกงานที่ต้องการความเรียบร้อยทันที

5. เสื้อผ้าเดินทางหรือท่องเที่ยว : ผ้าไนลอนและโพลีเอสเตอร์เบา เหมาะสำหรับชุดเดินทาง เพราะ พับเก็บในกระเป๋าแล้วไม่ยับ พร้อมใส่ได้ทันทีเมื่อถึงที่หมาย

6. ชุดกีฬาและเสื้อผ้ากลางแจ้ง : ผ้าไมโครไฟเบอร์และไนลอนใช้ทำชุดกีฬา เสื้อแจ็กเก็ต หรือเสื้อกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะ ระบายอากาศดี แห้งเร็ว ทนทาน และไม่ยับง่าย

แม้เสื้อผ้า ไม่ต้องรีด จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น แต่การดูแลอย่างถูกวิธีย่อมทำให้เสื้อผ้าสวยนานและใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น เรามาดูเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยรักษาเสื้อผ้าไม่ยับและสีสดใส

1. ซักอย่างเหมาะสม

• แยกสีผ้า ก่อนซัก เพื่อป้องกันสีตก

• ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นอ่อน ๆ แทนน้ำร้อน เพราะความร้อนสูงอาจทำให้ผ้ายับหรือเสียรูป

• เลือก ผงซักฟอกอ่อนโยน สำหรับผ้าใยสังเคราะห์หรือผ้าผสม

2. ตากอย่างถูกวิธี

• ตากในที่ร่มและมีลมถ่ายเท เพื่อให้ผ้าแห้งเร็วและไม่เสียทรง

• ใช้ไม้แขวนสำหรับเสื้อผ้าที่ต้องการรักษาทรง เช่น เสื้อเชิ้ต เสื้อเดรส

• หลีกเลี่ยงการตากโดนแสงแดดตรง ๆ นาน ๆ เพราะอาจทำให้สีผ้าซีด

3. เก็บและพับผ้าอย่างระมัดระวัง

• พับผ้าอย่างเรียบร้อย หรือแขวนไว้บนไม้แขวนที่พอดีขนาด

• อย่าวางของหนักทับเสื้อผ้า เพราะอาจทำให้เกิดรอยยับ

4. รีดแบบเบา ๆ เฉพาะจุด

• หากจำเป็นต้องรีด ควรใช้ อุณหภูมิต่ำ และรีดด้านในของผ้า

• สำหรับผ้าโพลีเอสเตอร์ ไมโครไฟเบอร์ หรือไนลอน ควรใช้ผ้ารองรีดเพื่อป้องกันความร้อนทำลายเส้นใย

5. ดูแลรอยเปื้อนทันที

• ใช้น้ำสะอาดหรือน้ำยาทำความสะอาดอ่อนโยนซับรอยเปื้อนทันที

• ไม่ขยี้แรง ๆ เพราะอาจทำให้ผ้ายับหรือเสียรูป

6. หมุนเวียนการใช้งาน

• อย่าใส่ซ้ำหลายวันโดยไม่ซัก เพราะแม้จะไม่ยับง่าย ผ้ายังอาจเก็บกลิ่นหรือสิ่งสกปรก

• การหมุนเวียนการใส่ช่วยรักษารูปทรงและคุณภาพผ้า

เสื้อผ้าไม่ต้องรีดจะสวยและใช้งานได้นานขึ้น หากคุณซักและตากอย่างถูกวิธี พับหรือแขวนอย่างระมัดระวัง และดูแลรอยเปื้อนทันที นอกจากนี้ การรีดเฉพาะจุดด้วยอุณหภูมิต่ำก็ช่วยรักษาผ้าให้คงรูปและสีสดใส