ปกติเสื้อยืดใช้ผ้าอะไร ผ้ามีกี่แบบ ?

ปกติเสื้อยืดใช้ผ้าอะไร หากใครกำลังสงสัยว่า เสื้อยืดใช้ผ้าอะไร ก็ต้องทำความเข้าใจภาพรวมกันก่อนว่า เสื้อยืด (T-shirt) เป็นเสื้อชนิดหนึ่งที่เราพบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะใส่เพื่อความสบายในวันหยุด ใส่ทำงาน หรือใช้ในกิจกรรมกีฬา ความนิยมของเสื้อยืดนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับดีไซน์เท่านั้น แต่เนื้อผ้าที่นำมาผลิตเสื้อยืดก็มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง การเลือก ผ้าเสื้อยืด ให้เหมาะสมไม่เพียงช่วยเพิ่มความสบาย แต่ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งาน เช่น ระบายอากาศดี ซึมซับเหงื่อ หรือคงทนต่อการซัก บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับประเภทของ เนื้อผ้าเสื้อยืด คุณสมบัติเด่นของแต่ละแบบ เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และแนะนำวิธีการเลือก ผ้าทำเสื้อยืด ให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการ 

สิ่งที่ทำให้เสื้อยืดแต่ละตัวมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน นอกเหนือจากดีไซน์หรือการตัดเย็บ ก็คือ เนื้อผ้าเสื้อยืด ที่ใช้ในการผลิต ผ้าที่เลือกใช้ส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึกเมื่อสวมใส่ การดูแลรักษา และแม้กระทั่งความเหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน

ผ้าเสื้อยืด ที่พบในตลาดปัจจุบันมีหลากหลายประเภท เช่น ผ้าฝ้าย ที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มสบาย ผ้าโพลีเอสเตอร์ ที่เด่นเรื่องความคงทน และผ้าผสมที่สร้างความสมดุลระหว่างคุณสมบัติของผ้าต่าง ๆ โดยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งเรื่องการระบายอากาศ ความทนทาน และราคาที่แตกต่างกันออกไป

การเลือกผ้าที่เหมาะสมสำหรับการผลิตหรือสวมใส่เสื้อยืด จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงการใช้งานเฉพาะ เช่น เสื้อที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย เสื้อใส่ลำลองในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่เสื้อที่ใช้สำหรับงานพิมพ์และการออกแบบลวดลาย “The Best T-Shirts for Men, Period“

1. ผ้าฝ้าย (Cotton)

ผ้าฝ้ายผลิตจากเส้นใยธรรมชาติที่ได้จากต้นฝ้าย โดยเริ่มจากการเก็บเกี่ยวปุยฝ้ายซึ่งเป็นส่วนที่อ่อนนุ่มของพืช จากนั้นนำเส้นใยมาผ่านกระบวนการแยกเมล็ดออกด้วยเครื่องจักร (Ginning) เส้นใยฝ้ายที่ได้จะถูกปั่นให้เป็นเส้นด้าย แล้วนำไปถักหรือทอเป็นผ้าตามความต้องการ ก่อนที่จะผ่านขั้นตอนการตกแต่งเพิ่มเติม เช่น การฟอกย้อมหรือปรับเนื้อผ้าให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งาน

• ความนุ่ม >> นุ่มเป็นพิเศษและรู้สึกสบายเมื่อสัมผัส
• การระบายอากาศ>> ดีเยี่ยม ช่วยให้ไม่อับชื้น
• ความทนทาน>> มีความคงทนเมื่อใช้งานทั่วไป แต่การซักบ่อยอาจทำให้ยับและหดตัว
• ราคา>> ราคาสูงกว่าเมื่อเทียบกับผ้าโพลีเอสเตอร์

2. ผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester)

ผ้าโพลีเอสเตอร์เป็นผ้าสังเคราะห์ที่ผลิตจากปิโตรเคมีภัณฑ์ กระบวนการผลิตเริ่มต้นด้วยการหลอมสารเคมี เช่น Ethylene glycol และ Terephthalic acid รวมกันเป็นเส้นใยสังเคราะห์ในรูปแบบเม็ดพลาสติก เม็ดพลาสติกจะถูกหลอมละลายและดึงเป็นเส้นใยยาว ๆ จากนั้นนำมาปั่นเพื่อเป็นเส้นด้าย ก่อนนำไปทอหรือถักเป็นผ้า ผ้าโพลีเอสเตอร์สามารถผ่านกระบวนการเคลือบหรือย้อมสีได้เพื่อเพิ่มความสวยงามและคุณสมบัติเฉพาะตัว

• ความนุ่ม>> นุ่มน้อยกว่าฝ้าย แต่ทนทานกว่า
• การระบายอากาศ>> ระบายความร้อนได้น้อยกว่า แต่มีคุณสมบัติแห้งไว
• ความทนทาน>> ทนต่อการยืด การหดตัว และรอยยับ
• ราคา>> ราคาย่อมเยา

3. ผ้า TC

ผ้า TC เป็นผ้าผสมระหว่างเส้นใยฝ้ายและเส้นใยโพลีเอสเตอร์ (อัตราส่วนมักอยู่ที่ 35% ฝ้าย และ 65% โพลีเอสเตอร์) กระบวนการผลิตเริ่มจากการนำเส้นใยทั้งสองชนิดมาผสมผสานเพื่อปั่นเป็นเส้นด้าย จากนั้นนำไปทอหรือถักให้กลายเป็นผืนผ้า ผ้าประเภทนี้ได้รับการออกแบบให้รวมคุณสมบัติเด่นของทั้งสองเส้นใย คือ ความทนทานของโพลีเอสเตอร์และความนุ่มสบายของฝ้าย

• ความนุ่ม>> น้อยกว่าผ้าฝ้าย แต่ให้สัมผัสเรียบลื่น
• การระบายอากาศ>> ระบายอากาศพอใช้ ไม่ดีเท่าฝ้าย 100%
• ความทนทาน>> มีความยืดหยุ่น ไม่ยับง่าย
• ราคา>> ราคาปานกลาง

4. ผ้า CVC

ผ้า CVC เป็นผ้าผสมที่มีสัดส่วนของฝ้ายมากกว่าโพลีเอสเตอร์ (มักอยู่ที่ 60% ฝ้าย และ 40% โพลีเอสเตอร์ หรือมากกว่านั้น) กระบวนการผลิตคล้ายคลึงกับผ้า TC โดยเริ่มจากการนำเส้นใยฝ้ายและโพลีเอสเตอร์มาปั่นรวมกันในสัดส่วนที่ต้องการ เส้นด้ายที่ได้จะถูกนำไปถักหรือทอเป็นผืนผ้า โดยจุดเด่นของผ้า CVC คือการรักษาสัมผัสที่นุ่มสบายแบบผ้าฝ้าย และเพิ่มความคงทนจากการผสมโพลีเอสเตอร์เข้าไป

• ความนุ่ม>> ใกล้เคียงกับผ้าฝ้าย เนื่องจากมีฝ้ายเป็นส่วนผสมหลัก
• การระบายอากาศ>> ดีกว่าผ้า TC
• ความทนทาน>> ยังคงคุณสมบัติทนทานของโพลีเอสเตอร์
• ราคา>> ราคาสูงกว่าผ้า TC แต่ต่ำกว่าฝ้าย

• ผ้าฝ้าย (Cotton)
  ข้อดี / ผ้าฝ้ายเป็นที่นิยมเพราะความนุ่มสบายและสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ สามารถระบายอากาศได้ดี เหมาะกับสภาพอากาศร้อน ซึมซับเหงื่อได้ดีและเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
  ข้อเสีย /  ยับง่ายและต้องการการดูแล เช่น การรีดเพื่อให้เรียบ มักหดตัวหลังการซักครั้งแรกและมีราคาสูงเมื่อเทียบกับผ้าชนิดอื่น
• ผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester)
  ข้อดี /  มีความคงทนสูง ไม่หดหรือยืดย้วยง่าย ซักแห้งเร็วและไม่ต้องรีด ดูแลรักษาง่าย เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความทนทาน เช่น เสื้อกีฬา
  ข้อเสีย / ระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าผ้าฝ้าย จึงทำให้ร้อนง่าย สัมผัสแข็งกว่าและขาดความเป็นธรรมชาติ
• ผ้า TC (Teteron Cotton)
  ข้อดี /  ผ้าผสมระหว่างโพลีเอสเตอร์และฝ้ายนี้ให้ความคงทน ไม่ยับง่าย และราคาไม่สูงมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความสมดุลทั้งในด้านราคาและคุณสมบัติ
  ข้อเสีย /  การระบายอากาศสู้ผ้าฝ้ายไม่ได้ และสัมผัสไม่สบายเท่าผ้าฝ้ายแท้
• ผ้า CVC (Chief Value Cotton)
  ข้อดี / ผ้าผสมที่มีปริมาณฝ้ายสูงกว่าผ้า TC ทำให้ได้สัมผัสนุ่มและระบายอากาศได้ดีขึ้น ในขณะที่ยังคงความคงทนจากโพลีเอสเตอร์ไว้ด้วย
  ข้อเสีย /  ราคาสูงกว่า TC แต่ยังไม่ได้ให้สัมผัสที่นุ่มหรือธรรมชาติเหมือนผ้าฝ้าย 100%
• ผ้าสแปนเด็กซ์ (Spandex)
  ข้อดี โดดเด่นเรื่องความยืดหยุ่นและการคืนตัว เหมาะสำหรับเสื้อกีฬา เสื้อแฟชั่น หรือเสื้อที่ต้องการความกระชับ
  ข้อเสีย  ระบายอากาศได้ไม่ดี ใส่นานอาจรู้สึกอับชื้น และมีราคาสูงกว่าผ้าชนิดอื่น

พูดถึงคำถามที่ว่า “ปกติเสื้อยืดใช้ผ้าอะไร?” คำตอบไม่ได้มีเพียงคำตอบเดียว เพราะการเลือก เนื้อผ้าเสื้อยืด นั้นขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้งานเป็นหลัก มากกว่าจะมีคำตอบตายตัวว่าผ้าชนิดไหนดีที่สุด เสื้อยืดที่ใช้สำหรับการใส่เล่นในวันพักผ่อนอาจต้องการความนุ่มและระบายอากาศดี ขณะที่เสื้อยืดสำหรับการออกกำลังกายอาจต้องการคุณสมบัติแห้งไวและความยืดหยุ่น

ปัจจัยหลักใน การเลือกผ้าทำเสื้อยืด ได้แก่ ความเหมาะสมต่อการใช้งาน ความสบายเมื่อสวมใส่ ความคุ้มค่า และความง่ายในการดูแลรักษา ผ้าแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็นผ้าฝ้าย (Cotton), ผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester), หรือผ้าผสมแบบ TC และ CVC ล้วนมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน การเข้าใจคุณสมบัติของผ้าแต่ละชนิดจึงช่วยให้คุณสามารถเลือก เสื้อยืด ที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด

1. สำหรับใส่ลำลอง (Casual)
ผ้าเสื้อยืดแบบไหนดี >>> เลือก ผ้าฝ้าย 100% หรือ ผ้า CVC เนื่องจากเน้นความสบายและการระบายอากาศ

2. สำหรับออกกำลังกายหรือกิจกรรมกลางแจ้ง
เสื้อยืดผ้าอะไรใส่สบายที่สุด>>>  ผ้าโพลีเอสเตอร์ ตอบโจทย์สำหรับการออกกำลังกาย ด้วยคุณสมบัติแห้งไวและน้ำหนักเบา

3. สำหรับการทำงานหรือสภาพแวดล้อมที่เป็นทางการ
เลือก ผ้า CVC หรือ ผ้า TC >>> เนื่องจากมีความทนทานและเรียบลื่น ใส่แล้วดูเรียบร้อย

4. สำหรับงานพิมพ์หรือสกรีนลาย
ผ้าทำเสื้อยืดสำหรับงานพิมพ์ >>>  ควรเลือกผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือผ้า TC เพราะรองรับการพิมพ์ลายได้คมชัด

การเลือกเนื้อผ้าเสื้อยืดสำหรับงานสกรีนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพของลายสกรีน ความคมชัดของลวดลาย และความคงทนของสีที่พิมพ์ลงบนผ้า เนื้อผ้าที่เหมาะสมควรมีพื้นผิวที่เรียบ มีคุณสมบัติในการจับสีหมึกได้ดี และตอบโจทย์ความต้องการใช้งานในระยะยาว

1. ผ้าฝ้าย 100% (Cotton 100%)
   ผ้าฝ้าย 100% เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับงานสกรีน เนื่องจากมีพื้นผิวเรียบและดูดซับหมึกพิมพ์ได้ดี ทำให้ลวดลายมีความคมชัด สีสดใส และติดทนนาน ผ้าฝ้ายยังระบายอากาศได้ดี ใส่สบาย เหมาะกับการใช้งานทั่วไปและสวมใส่ในอากาศร้อน อย่างไรก็ตาม ควรเลือกผ้าฝ้ายที่ผ่านกระบวนการป้องกันการหดตัว (Pre-Shrunk) เพื่อลดโอกาสที่เสื้อจะเสียทรงหลังการซัก
2. ผ้าผสม CVC (Chief Value Cotton)
   สำหรับผู้ที่ต้องการความสมดุลระหว่างคุณสมบัติของผ้าฝ้ายและความทนทานจากโพลีเอสเตอร์ ผ้า CVC เป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากมีส่วนผสมของฝ้ายในปริมาณสูง ทำให้ยังได้พื้นผิวเรียบ ซับหมึกได้ดี แต่มีความคงทนและดูแลง่ายกว่าผ้าฝ้ายล้วน
3. ผ้า TC (Teteron Cotton)
   แม้จะมีฝ้ายเป็นส่วนผสมที่น้อยกว่า แต่ผ้า TC มีความเรียบและทนต่อการยืดหรือย้วย ทำให้เหมาะสำหรับงานสกรีนที่ต้องการลวดลายคงทน ผ้านี้เหมาะกับเสื้อสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น เสื้อยืดแจกในงานกิจกรรม
4. ผ้าโพลีเอสเตอร์ 100%
   ไม่เหมาะเท่าผ้าฝ้ายหรือลูกผสมสำหรับงานสกรีนทั่วไป แต่เหมาะมากสำหรับเทคนิคการพิมพ์แบบ ซับลิเมชัน (Sublimation) ที่ต้องการผ้าสังเคราะห์เพื่อการพิมพ์ที่ชัดเจน

สรุป คือ เสื้อยืดสำหรับงานสกรีนควรเลือกผ้าฝ้าย 100% หรือผ้าผสม CVC และ TC เพื่อความคมชัดและคงทนของลายพิมพ์ โดยพิจารณาความต้องการในเรื่องราคา ความสะดวกในการดูแล และการใช้งานร่วมด้วยสำหรับใครที่กำลังสนใจมองหา ร้านสกรีนเสื้อราคาถูก สามารถปรึกษาเรื่องเนื้อผ้าและงานสกรีนกับเราได้เลย

ติดต่อเรา วิธีวัดไซส์เสื้อยืด