สกรีน DTG คือ

สกรีน DTG คืออะไร ?

สกรีน DTG คือ วิธีการพิมพ์ลายสกรีนลงบนผืนผ้าโดยตรงผ่านเครื่องพิมพ์เสื้อเฉพาะทาง ร้านสกรีนเสื้อ DTG โอชิ เรามีประสบการณ์ด้านงาน สกรีนเสื้อ หลายแบบและปัจจุบันเรา รับสกรีนเสื้อ DTG ราคาถูก โดยใช้หมึกพิเศษที่สามารถซึมลงในเนื้อผ้าได้อย่างแนบเนียน เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อผ้าเอง ไม่ใช่เพียงแค่ลวดลายสกรีนที่เคลือบอยู่บนผิวเสื้อโดยต่างจากเทคนิคสกรีนแบบดั้งเดิมที่ใช้บล็อกสกรีน หรือ เทคนิคอีกแบบเช่น DFT ที่ใช้ฟิล์มในการพิมพ์ลายสกรีน การสกรีนแบบ DTG หรือ Direct to Garment กลายมาเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีการสกรีนเสื้อในยุคใหม่ ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องคุณภาพ ความละเอียด และความรวดเร็ว ความสามารถในการพิมพ์ลวดลายที่มีความซับซ้อนและหลากสีในครั้งเดียว DTG จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานออกแบบที่ต้องการรายละเอียดสูง เช่น ภาพถ่าย ภาพวาดที่มีแสงเงา หรือการไล่เฉดสีแบบสมจริง อีกทั้งยังสามารถพิมพ์ได้ทีละตัว ทำให้ต้นทุนในการผลิตไม่สูงเกินไปแม้ในกรณีที่สั่งพิมพ์จำนวนน้อยเพียงแค่ 1 ตัวก็เริ่มสกรีนเสื้อได้

รับสกรีนเสื้อ DTG

ร้านสกรีนเสื้อโฮชิ ให้บริการรับสกรีนเสื้อแบบ สกรีนดิจิตอล DTG หนึ่งในเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการแฟชั่นและอุตสาหกรรมงานสกรีนเสื้อในปัจจุบัน ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของความยืดหยุ่น ความคุ้มค่าของต้นทุนการสกรีน และยังรวมไปถึงคุณภาพของงานสกรีนที่เก็บลายละเอียดของสีได้ครบ สนใจ สกรีนเสื้อ ปรึกษาเราได้ทันที แอดไลน์ แจ้งรายละเอียดได้ตอนนี้เลย

รับสกรีนเสื้อ

สกรีน DTG คือ

สกรีน DTG หรือ Direct to Garment คือ เทคโนโลยีการสกรีนเสื้อแบบ พิมพ์ดิจิตอล เป็นการพิมพ์ลวดลายสกรีนลงไปบนเนื้อผ้าของเสื้อโดยตรงเลย และจะต้องใช้เครื่องสกรีนเฉพาะสำหรับงาน DTG รวมกันกับใช้หมึกชนิดพิเศษที่สามารถซึมซับเข้าไปในเส้นใยของผ้าได้ ดังนั้นงาน สกรีนดีทีจี จะได้งานสกรีนที่ คมชัด สีสด และให้ผิวสัมผัสที่นุ่มนวลเหมือนไม่มีอะไรพิมพ์อยู่เลย หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า สกรีนจม (จมในเนื้อผ้า) เหมาะกับงานพิมพ์เสื้อผ้าที่ต้องการความละเอียดสูง และต้องการเสื้อผ้าที่ดูแลรักษาง่ายหลังสกรีน ใส่สบายไม่ร้อน

ปรึกษาเรา

สกรีนดิจิตอล หรือ พิมพ์เสื้อดิจิตอล คือ

สกรีนดิจิตอล

การพิมพ์เสื้อดิจิตอล หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “Digital Garment Printing” ถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิควิธีการสำคัญของวงการสิ่งทอและแฟชั่นที่เข้ามาทำให้ การสกรีนเสื้อ มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นจากเดิม  เพราะเทคนิคสกรีนแบบเก่า การสกรีนเสื้อ จำเป็นต้องอาศัยกระบวนการที่ซับซ้อน เช่น การแยกสี การทำบล็อกสกรีน และการใช้แรงงานคนสกรีนจำนวนมาก รวมไปถึงต้นทุนเริ่มต้นที่สูง และไม่คุ้มค่าสำหรับการผลิตจำนวนน้อย ๆ  แต่ การพิมพ์เสื้อดิจิตอล เข้ามามีบทบาทในฐานะเทคโนโลยีสกรีนที่ทันสมัย รวดเร็ว และยืดหยุ่นสูง ทำให้การสกรีนเสื้อพิมพ์ลวดลายต่าง ๆ ลงบนเสื้อผ้าสามารถทำได้ง่ายจะเริ่มต้นสกรีนเพียงแค่ 1 ตัวก็สามารถเริ่มต้นสกรีนได้ เพราะไม่ต้องจำกัดเฉพาะการสกรีนจำนวนมาก ๆ ต้องมีขั้นต่ำในการผลิตเหมือนแต่ก่อน 

ต้นกำเนิดของ การพิมพ์เสื้อดิจิตอล (DTG) นั้นเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1990 เมื่อเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ อิงค์เจ็ท (inkjet) เริ่มได้รับการพัฒนาให้สามารถพิมพ์บนวัสดุที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่แค่กระดาษอีกต่อไป แต่รวมถึงสิ่งทอและผ้าฝ้าย ซึ่งเป็นวัสดุหลักในการทำเสื้อยืดในตลาดทั่วโลก เครื่องพิมพ์เฉพาะทางสำหรับสิ่งทอจึงถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปที่ความสามารถในการพิมพ์ภาพละเอียดสูง สีสันคมชัด และสามารถซึมเข้าสู่เนื้อผ้าได้อย่างแนบเนียน จากจุดเริ่มต้นนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวได้เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของคุณภาพการพิมพ์ ความเร็วในการผลิต และความสามารถในการรองรับการพิมพ์แบบไม่มีขั้นต่ำ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำคัญของ การพิมพ์เสื้อดิจิตอล

แม้ในช่วงแรกการ พิมพ์เสื้อดิจิตอล จะยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ความทนของหมึกเมื่อเทียบกับการสกรีนด้วยสีพลาสติก แต่ด้วยการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของเทคโนโลยี ทั้งในด้านวัสดุหมึกพิมพ์ ระบบการจัดการสี และเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ ๆ ที่รองรับการพิมพ์ได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ทำให้เทคนิคนี้กลายเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้ประกอบการแฟชั่นในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เสื้อผ้ารายเล็ก กลุ่มนักออกแบบอิสระ หรือแม้แต่บริษัทผลิตสินค้าพรีเมียมที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงในการผลิต

DTG สกรีนเสื้อ มีขั้นตอนอย่างไร

DTG สกรีนเสื้อ

การสกรีนเสื้อด้วยเทคนิคแบบ DTG นั้นเหมาะสำหรับ ผ้าฝ้าย 100% (Cotton 100% ) หรือ ผ้าผสมที่มีเปอร์เซ็นต์ฝ้ายสูง เพราะลักษณะเฉพาะของเส้นใย ผ้าคอตตอน สามารถทำงานร่วมกับหมึกพิมพ์สูตรน้ำ (water-based pigment ink) ที่ใช้ในเทคนิค DTG ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง โดยเส้นใยฝ้ายดูดซับหมึกได้ดี เมื่อใช้หมึกสูตรน้ำในการพิมพ์ เส้นใยของผ้าฝ้ายจะดูดซึมและเกาะกับหมึกได้อย่างแนบแน่น หมึกจึงแทรกซึมลงในเนื้อผ้าได้ดี ทำให้ลวดลายที่พิมพ์ติดทนนาน สีสวย คมชัด และไม่หลุดลอกง่าย โดยการสกรีนเสื้อด้วยเทคนิคนี้จะมีขั้นตอนง่าย ๆ 

  1. เริ่มต้นจากการเตรียมไฟล์งานออกแบบ ซึ่งควรเป็นไฟล์ความละเอียดสูง เช่น 300 dpi ขึ้นไป และอยู่ในรูปแบบไฟล์ PNG ที่มีพื้นหลังโปร่งใส (transparent background) เพื่อให้ลายสกรีนออกมาคมชัดและไม่มีขอบสีขาวติดอยู่รอบลาย งานที่เหมาะกับ DTG ควรเป็นภาพถ่าย ภาพวาด หรือลวดลายที่มีหลายสีหรือไล่เฉดสี เพราะ เครื่องสกรีน DTG สามารถสกรีนได้ทีเดียวครบทุกสี โดยไม่ต้องแยกสีหรือทำฟิล์มเหมือนระบบสกรีนแบบเก่า
  2. ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมเสื้อผ้า โดยเสื้อที่จะนำมาพิมพ์ต้องผ่านการ “Pre-treatment” หรือการพ่นน้ำยาเคลือบพิเศษลงบนบริเวณที่ต้องการพิมพ์ลาย เพื่อช่วยให้หมึกเกาะตัวดีขึ้น สีสดชัดขึ้น และป้องกันไม่ให้หมึกไหลหรือซึมจนเบลอ ขั้นตอนนี้สำคัญมาก โดยเฉพาะหากเป็นการพิมพ์ลงบนเสื้อสีเข้ม จากนั้นจะต้องนำเสื้อที่ผ่านการพ่นน้ำยาไปเข้า เครื่องรีดความร้อน (Heat Press) เพื่อให้เนื้อผ้าเรียบ และน้ำยาซึมเข้าเนื้อผ้าอย่างทั่วถึง
  3. เมื่อเสื้อพร้อมพิมพ์แล้ว จะนำไปวางบนเครื่องสกรีน DTG เครื่องจะทำการอ่านไฟล์แบบสกรีนและสกรีนลายลงบนเนื้อผ้า ตามตำแหน่งที่กำหนดไว้ ขั้นตอนนี้ต้องใช้ความแม่นยำ และควบคุมผ่านซอฟต์แวร์เฉพาะที่มากับเครื่องพิมพ์แต่ละรุ่น เมื่อลายถูกพิมพ์เสร็จแล้ว จะต้องนำเสื้อไปเข้าเครื่องรีดความร้อนอีกครั้ง เพื่อทำการ “Curing” หรือการทำให้หมึกแห้งและยึดติดกับเนื้อผ้าอย่างสมบูรณ์ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่กี่นาที และเมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็สามารถพับแพ็กหรือส่งมอบให้ลูกค้าได้ทันที

จะเห็นได้ว่าการสกรีนเสื้อด้วย เทคนิค DTG เป็นกระบวนการที่ไม่ซับซ้อน แต่ต้องใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมไฟล์ งานออกแบบ การพ่นน้ำยา การพิมพ์ และการรีดความร้อน ซึ่งเมื่อนำมารวมกันแล้วจะได้เสื้อพิมพ์ลายที่สวยงาม สีสด คมชัด ดังนั้นประสบการณ์ของ ร้านสกรีนเสื้อ DTG จึงเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะเป็นตัวกำหนดคุณภาพของงานสกรีนเสื้อได้นอกจากนั้น เครื่องสกรีน DTG ก็มีหลายยี่ห้อซึ่งให้ผลลัพย์งานสกรีนที่แตกต่างกันในเรื่องของเฉดสีการสกรีน โดยเจ้าใหญ่ปัจจุบันก็จะมีเครื่อง Epson , Brother , Kornit Digital 

เครื่องสกรีน DTG อุปกรณ์ที่ใช้สกรีน

เครื่องพิมพ์ (DTG Printer)

หัวใจหลักของเทคนิคสกรีนนี้ คือ เครื่องพิมพ์เสื้อระบบดิจิตอล (DTG) ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับการพิมพ์ลงบนผ้าฝ้าย มีหลายรุ่นให้เลือก ทั้งขนาดเล็กสำหรับงานระดับเริ่มต้น ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรม ตัวเครื่องจะรับไฟล์ภาพจากคอมพิวเตอร์ แล้วพิมพ์หมึกลงบนเสื้อโดยตรง

More info

น้ำยา Pre-treatment

เป็นน้ำยาเคลือบผ้า (โดยเฉพาะผ้าสีเข้ม) ก่อนพิมพ์ เพื่อช่วยให้หมึกติดดีขึ้น สีสด ไม่ไหลเยิ้ม และช่วยให้ภาพพิมพ์คงทนหลังซัก โดยทั่วไปจะพ่นเฉพาะบริเวณที่ต้องการพิมพ์

More info

เครื่องพรีทรีตอัตโนมัติ (Pre-treatment Machine)

แม้จะสามารถใช้ขวดสเปรย์พ่นมือได้ในช่วงเริ่มต้น แต่ถ้าต้องการงานที่สม่ำเสมอและมืออาชีพ จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องพ่นพรีทรีตอัตโนมัติ เพื่อควบคุมปริมาณน้ำยาและพื้นที่ให้แม่นยำ

More info

เครื่องรีดร้อน (Heat Press Machine)

ใช้กดความร้อนเพื่อ “เซ็ต” น้ำยา Pre-treatment ก่อนพิมพ์ และหลังพิมพ์เพื่อตรึงหมึกให้ติดแน่นกับผ้า ช่วยให้หมึกแห้งเร็ว สีสด และทนทานต่อการซัก โดยทั่วไปอุณหภูมิจะอยู่ราว 160-180°C ใช้เวลาประมาณ 30-90 วินาที

More info

หมึกพิมพ์ DTG (DTG Ink)

เป็นหมึกชนิดพิเศษที่ใช้กับสิ่งทอโดยเฉพาะ มักเป็นหมึกสูตรน้ำ (Water-based pigment ink) แบ่งเป็นหมึกสี (CMYK) และหมึกขาว (White Ink) สำหรับพิมพ์ลงบนผ้าสีเข้ม ต้องเลือกหมึกให้ตรงกับรุ่นเครื่องพิมพ์

More info

ซอฟต์แวร์ RIP (Raster Image Processor)

เป็นโปรแกรมที่แปลงไฟล์ภาพให้อยู่ในรูปแบบที่ เครื่องพิมพ์ DTG เข้าใจ พร้อมปรับค่าความละเอียด การใช้หมึก การวางเลเยอร์สีขาว ฯลฯ ซึ่งมีผลอย่างมากกับคุณภาพของงานพิมพ์

More info

สกรีน DTF ต่างจาก DTG ยังไง ?

สกรีน DTF ต่างจาก DTG ยังไง
DTG (Direct to Garment) และ DTF (Direct to Film)

การสกรีนลายเสื้อ ปัจจุบันจะมีอยู่หลากหลายวิธีการ แต่เทคนิคการสกรีนที่เรียกว่า ได้รับความนิยมมีกระแสมาแรงช่วงนี้ก็ต้องยกให้กับสองเทคสกรีนอย่าง ” DTG (Direct to Garment) และ DTF (Direct to Film) “ ซึ่งแม้จะมีชื่อคล้ายกัน และ ต่างก็เป็นการ พิมพ์เสื้อดิจิตอล เหมือนกันแต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองเทคนิคสกรีนทั้ง DTG และ DTF มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งในด้านวิธีการพิมพ์สกรีน วัสดุเครื่องมือที่ใช้สกรีน รวมไปจนถึงลักษณะของเนื้องานสกรีนเสื้อที่ได้รับก็ไม่เหมือนกัน

  • สกรีน DTG (Direct to Garment) คือ การพิมพ์ลายลงบนผ้าโดยตรงหมึกจะซึมเข้าไปในเส้นใยของผ้า ทำให้เนื้องานสกรีนจะเรียบไปกับเสื้ออย่างเป็นธรรมชาติ
  • สกรีน DTF (Direct to Film) คือ ใช้วิธีพิมพ์ลายลงบนฟิล์มพลาสติกแทน จากนั้นโรยกาวผง (hot melt powder) แล้วนำไปเข้าเครื่องอบเพื่อให้กาวละลาย ก่อนจะรีดลายจากฟิล์มลงบนเสื้อผ้าด้วยเครื่อง heat press

ข้อแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดของ DTG และ DTF คือ เรื่องของ ผิวสัมผัสและความยืดหยุ่น ลายพิมพ์ของ DTG จะเนียนไปกับผ้า ไม่รู้สึกถึงความนูนหรือแข็ง ขณะที่ DTF จะมีลักษณะเป็นฟิล์มบาง ๆ ที่เคลือบอยู่บนผ้า ซึ่งทำให้ความรู้สึกเมื่อสัมผัสได้ชัดเจน  

  • DTG  บริเวณที่สกรีน อากาศ ความร้อน จะระบายผ่านได้ตามปกติ เพราะเทคนิคสกรีนสีจะซึมไปกับใยผ้า เหมาะกับการสกรีนกับเนื้อผ้าคอตตอนเท่านั้น กับเสื้อที่ทำจากผ้าชนิดโดยเฉพาะผ้าโพลีเอสเตอร์จะสกรีนไม่ติด
  • DFT บริเวณที่สกรีน อากาศ ความร้อน จะไม่ระบายผ่านได้ เพราะเทคนิคสกรีนจะใช้การเคลือบลายสกรีนไปบนเสื้อ โดยสกรีนได้กับทุกเนื้อผ้า

ดังนั้นสรุปว่า DTG เหมาะกับงานเฉพาะทาง งานออเดอร์สั่งทำจำนวนไม่มาก เป็นงานที่ต้องการความเนียนละเอียดระดับพรีเมียมใส่สบาย ส่วนงานสกรีน DFT เหมาะกับการผลิตปริมาณมากเพราะราคาต้นทุนถูกกว่ามากและรองรับผ้าได้หลากหลายชนิด

สกรีน DTG ดีไหม ? ข้อดี

การสกรีนแบบ DTG หรือ Direct to Garment นั้นเป็นการสกรีนลายลงเนื้อผ้าโดยตรงซึ่งจำเป็นต้องมีเครื่องสกรีน DTG เฉพาะคล้ายกับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ททั่วไป แต่ได้รับการออกแบบให้พิมพ์ลงบนเสื้อหรือเนื้อผ้าแทน การสกรีนเสื้อด้วย เทคนิค DTG เป็นทางเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการงานสกรีนเสื้อคุณภาพสูง ทั้งสีสัด ลายละเอียดงานสกรีนต่าง ๆ DTG เก็บรายละเอียดได้ครบหมด ที่สำคัญคือ ความยืดหยุ่นในการผลิตเพราะรองรับการผลิตจำนวนไม่มากได้ พิมพ์เสื้อได้แม้เพียง 1 ตัว เปลี่ยนลวดลายในการพิมพ์ได้อย่างอิสระกว่าเทคนิคอื่น ๆ

ร้านสกรีนเสื้อ DTG กรุงเทพ

ข้อดี งานสกรีน DTG

  1. คุณภาพงานสกรีน >> ข้อดีที่โดดเด่นที่สุดของ DTG คือคุณภาพของงานพิมพ์ที่คมชัด สีสด และสามารถพิมพ์รายละเอียดขนาดเล็กได้ดีเยี่ยม ซึ่งแตกต่างจากการสกรีนแบบซิลค์สกรีนที่มีข้อจำกัดด้านสีและรายละเอียด  
    1. สีสันสมจริง DTG สามารถพิมพ์สีได้หลายล้านเฉด ทำให้ภาพออกมาสมจริงและมีมิติมากกว่าการสกรีนแบบดั้งเดิม

    2. รองรับภาพความละเอียดสูง สามารถพิมพ์ภาพถ่ายหรือกราฟิกที่ซับซ้อนได้โดยไม่เสียรายละเอียด

    3. สีไม่หลุดง่าย ด้วยการใช้หมึกเฉพาะทางและการอบที่ถูกวิธี งานสกรีนเสื้อ DTG จึงคงทนและไม่หลุดลอกง่ายเมื่อซัก

  2. ความยืดหยุ่นในการผลิต >> DTG เหมาะสำหรับการผลิตในปริมาณน้อยหรือการ พิมพ์เสื้อแบบสั่งทำ (Made-to-Order) พิมพ์เสื้อได้แม้เพียง 1 ตัว ไม่จำเป็นต้องมีขั้นต่ำในการสั่งผลิต เปลี่ยนลวดลายในการพิมพ์ได้อย่างอิสระ ลดต้นทุนการเตรียมงาน ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำบล็อกสกรีน
  3. ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม >> การพิมพ์แบบ DTG ถือว่าเป็นวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อเทียบกับการสกรีนแบบดั้งเดิม เนื่องจากใช้หมึกน้ำที่ปลอดสารพิษและไม่มีการสร้างของเสียจากบล็อกสกรีนหรือสารเคมีอื่น ๆ ซึ่งหมึก DTG เป็นหมึกน้ำปราศจากสารเคมีอันตราย เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ หรือโลหะหนัก

รับสกรีนเสื้อ DTG

รับสกรีนเสื้อด้วยเทคนิค DTG ไม่มีค่าบล็อกประหยัดกว่าเมื่อพิมพ์จำนวนน้อย ละเอียดสูงเหมาะกับลายที่มีรายละเอียด เช่น ภาพเหมือนจริง สอบถามราคาหรือปรึกษาเราได้ฟรี !

สกรีน DTG ทนไหม ?

คำถามสำคัญที่ลูกค้ามักจะสอบถามกับร้านเรา คือ งานสกรีนเสื้อ DTG (Direct to Garment) นั้นมีความทนทานต่อการใช้งานมากแค่ไหน “สกรีน DTG ทนไหม?” หรือกล่าวง่าย ๆ คือ งานสกรีนจะติดทนดีแค่ไหน ซักแล้วลอกหรือซีดเร็วหรือไม่ ? ก่อนอื่นเราควรทำความเข้าใจกับเทคโนโลยีการสกรีนแบบ ดีทีจี ก่อนว่าเทคนิคสกรีนนี้ คือ การสกรีนลายลงบนผ้าโดยตรง ด้วยเครื่องสกรีนเฉพาะสำหรับงาน DTG โดยใช้หมึก Water based ซึ่งสามารถซึมเข้าไปในเส้นใยของผ้าได้ลึก ไม่เหมือนกับการติดแผ่นฟิล์มหรือกาวแบบบางเทคนิคอื่น ๆ มีกระบวนการสกรีนหลักอยู่ 3 ส่วน คือ

  1. การเคลือบ Pre-treatment เพื่อช่วยให้หมึกยึดติดดีขึ้น
  2. การพิมพ์ด้วยเครื่องสกรีนอิงค์เจ็ท DTG ที่แม่นยำสูง
  3. การอบความร้อนเพื่อให้หมึกเซ็ตตัวและติดแน่นกับเส้นใยเสื้อผ้า

ด้วยวิธีนี้ สีและลายพิมพ์สกรีนจึงไม่เพียงแค่ติดบนผิว แต่จะซึมลึกเข้าไปในตัวผ้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ “ความทนทาน” ของลายสกรีน จากการใช้งานทั่วไป พบว่าลายพิมพ์ DTG ที่ได้มาตรฐานสามารถทนการซักได้ประมาณ 40-70 ครั้งขึ้นไป โดยไม่ซีดจางอย่างเห็นได้ชัด และหากดูแลอย่างถูกต้อง ลายสกรีน DTG สามารถอยู่ได้นานถึง หลายเดือนหรือเป็นปี โดยยังคงสีสันเด่นชัด นุ่มมือ และไม่หลุดลอกง่าย

ปัจจัยที่มีผลต่อความทนทานของการพิมพ์ DTG

แม้ว่าเทคโนโลยี DTG จะมีพื้นฐานที่ดีในด้านความติดทน แต่ก็มีหลายปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพในระยะยาว

  • คุณภาพของหมึกพิมพ์ หมึกที่ใช้ในการพิมพ์ DTG จำเป็นต้องเป็นหมึกสูตรเฉพาะสำหรับสิ่งทอ หากใช้หมึกคุณภาพต่ำ ลวดลายอาจซีดเร็วเมื่อซักเพียงไม่กี่ครั้ง ขณะที่หมึกจากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Epson, Brother หรือ Kornit จะให้ความทนทานมากกว่า และมีความยืดหยุ่นดี ไม่แตกเมื่อตัวผ้ายืดตัว
  • การเตรียมผ้าก่อนพิมพ์ (Pre-treatment) ขั้นตอนการพ่นน้ำยา pre-treatment เป็นหัวใจสำคัญของ DTG โดยเฉพาะเมื่อพิมพ์บนผ้าสีเข้ม ถ้าพ่นน้ำน้อยไป สีจะไม่ติดแน่น ถ้าพ่นมากไป อาจทำให้เนื้อผ้าแข็งหรือเป็นคราบได้ ผู้ผลิตที่ใส่ใจในขั้นตอนนี้จะทำให้ลายพิมพ์ทนทานและคงสีได้นานขึ้น
  • การอบลายสกรีนหลังพิมพ์ (Curing) หลังสกรีนเสร็จ ลายสกรีนต้องถูกอบให้หมึกแห้งและเซ็ตตัวในผ้าอย่างถูกต้อง หากใช้ความร้อนไม่พอ หรือเวลาไม่เหมาะสม อาจทำให้หมึกไม่ยึดติดแน่น ซึ่งมีผลให้ลอกหรือละลายออกง่ายเมื่อซัก
  • ชนิดของผ้าที่ใช้ ผ้าฝ้าย 100% จะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการพิมพ์ DTG เพราะหมึกสามารถซึมเข้าเส้นใยได้ดี ผ้าโพลีเอสเตอร์หรือผ้าผสม อาจต้องใช้เทคนิคพิเศษหรือได้ความทนทานน้อยลง
สกรีน DTG ทนไหม
ปัจจัยที่มีผลต่อความทนทานของการพิมพ์ DTG

สกรีน DTG ข้อเสีย ?

DTG นั้นต้องยอมรับว่า สามารถผลิตงานพิมพ์ที่มีรายละเอียดสูง มีสีสันคมชัด และรองรับการพิมพ์ภาพที่ซับซ้อนได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเทคโนโลยีการสกรีนนี้จะมีข้อดีอยู่มากมาย แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง ที่เราควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจเลือก สกรีนเสื้อ ด้วยเทคนิคนี้ โดยเฉพาะในด้านต้นทุนการผลิตต่อหน่วย การดูแลรักษาเสื้อสกรีน ปัจจัยเรื่องของเนื้อผ้าที่เหมาะสมและ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ปรึกษาเรา

ข้อเสียงาน สกรีน DTG

  • ต้นทุนการผลิตที่สูง หนึ่งในข้อเสียที่เห็นได้ชัดของการสกรีน DTG คือ เรื่องของต้นทุนการสกรีนที่สูงกว่าการพิมพ์ด้วยวิธีดั้งเดิม เช่น การสกรีนซิลค์สกรีนหรือการพิมพ์แบบทรานส์เฟอร์ DTF เนื่องจากต้องใช้หมึกเฉพาะที่มีราคาสูง รวมถึงเครื่องพิมพ์ DTG เองก็มีราคาค่อนข้างแพง

  • ใช้เวลาสกรีนต่อตัวค่อนช้างช้า แม้ว่า DTG จะเหมาะสำหรับงานพิมพ์จำนวนน้อยหรืองานที่มีความละเอียดสูง แต่กระบวนการสกรีนเสื้อแต่ละตัว ใช้เวลานานกว่าเทคนิคการสกรีนอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด การพิมพ์ภาพหนึ่งภาพลงบนเสื้อหนึ่งตัวโดยใช้ DTG อาจใช้เวลาหลายนาที ซึ่งหากต้องการผลิตในปริมาณมาก จะต้องใช้เวลาและแรงงานจำนวนมา โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการสกรีนซิลค์สกรีนที่สามารถผลิตจำนวนมากได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว

  • ข้อจำกัดด้านประเภทผ้าที่ใช้ได้ อีกหนึ่งข้อเสียของ DTG คือข้อจำกัดด้านประเภทของผ้าที่สามารถใช้พิมพ์ได้ เครื่องพิมพ์ DTG ทำงานได้ดีที่สุดกับผ้าฝ้าย 100% หรือผ้าที่มีส่วนผสมของฝ้ายสูง หากใช้กับผ้าใยสังเคราะห์หรือผ้าผสมที่มีสัดส่วนของเส้นใยสังเคราะห์สูง อาจทำให้หมึกไม่เกาะแน่นและลายพิมพ์ไม่ชัดเจน

  • ความทนทานของลายสกรีน แม้ DTG จะสามารถพิมพ์ลายได้อย่างคมชัดและสวยงาม แต่ความทนทานของลายพิมพ์เมื่อผ่านการซักและใช้งานเป็นเวลานานยังคงเป็นข้อกังวล โดยเฉพาะหากไม่ได้ผ่านกระบวนการเคลือบหรือตั้งค่าความร้อนที่เหมาะสมหลังการพิมพ์

  • การซีดจางของสีสกรีน เมื่อใช้เสื้อไปนาน ๆ เข้าเวลาผ่านไป สีที่พิมพ์ด้วย DTG อาจซีดจางเร็วกว่าวิธีการพิมพ์แบบอื่น โดยเฉพาะหากมีการซักบ่อยหรือใช้สารซักฟอกที่มีความรุนแรงในการขจัดคราบ

เทียบเทคนิคสกรีนเสื้อแต่ละแบบ

บล็อกสกรีน

สกรีนบล็อก (Silkscreen Printing) เป็นเทคนิคดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับการผลิตเสื้อในปริมาณมาก เพราะเมื่อผลิตจำนวนมาก ต้นทุนต่อตัวจะต่ำมาก หมึกที่ใช้มีความทนทานสูง แต่ข้อเสียคือ หากต้องการผลิตจำนวนน้อย ต้นทุนต่อชิ้นจะสูง เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายการเตรียมบล็อกก่อนเริ่มสกรีน และต้นทุนจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนสีที่ใช้

DTG

การสกรีนเสื้อด้วยระบบ DTG (Direct to Garment) คือ การพิมพ์หมึกสกรีนลงบนผ้าโดยตรงผ่านเครื่องสกรีนเฉพาะที่มีหลักการทำงานคล้ายกับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท เหมาะสำหรับการผลิตเสื้อแบบสั่งทำตามจำนวนที่ต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องทำบล็อกสกรีน และสามารถพิมพ์ลวดลายที่ซับซ้อนได้ดี ข้อเสียคือ ต้นทุนค่อนข้างสูง และสกรีนได้เฉพาะกับผ้าฝ้าย

Heat Transfer

เทคนิคการรีดร้อน เป็นกระบวนการที่พิมพ์ลวดลายสกรีนลงบนแผ่นวัสดุพิเศษ เช่น ไวนิลหรือสติกเกอร์ แล้วตัดส่วนที่ไม่ต้องการออก ก่อนจะนำไปรีดติดบนผ้าด้วยความร้อน วิธีนี้ไม่ยุ่งยาก ใช้อุปกรณ์ไม่มาก เหมาะกับผลิตจำนวนไม่มาก ราคาสกรีนไม่แพง แต่ความทนทานของลวดลายอาจลดลงหลังจากผ่านการซักบ่อยครั้ง และเนิ้องานจะแข็งและมีผิวสัมผัสกระด้าง

DFT

เทคนิคสกรีน DFT (Direct Film Transfer) คือ แบบใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน มีลักษณะคล้ายกับการรีดร้อน (Heat Transfer) แต่มีขั้นตอนเพิ่มเติม โดยจะสกรีนลายลงบนฟิล์มเฉพาะก่อน จากนั้นนำไปเคลือบกาวก่อนรีดร้อนติดกับผ้า ข้อดีของวิธีนี้ คือ ให้สีสันที่สดใส ลวดลายสกรีนติดทนนาน แล ะสามารถใช้งานได้กับผ้าทุกชนิดเลย

เทียบเทคนิคสกรีนเสื้อแต่ละแบบ

ร้านสกรีนเสื้อ DTG

Hoshi Kaizen DTG  ร้านสกรีนเสื้อระบบ Direct to Garment (DTG) ที่ตอบโจทย์ทุกไอเดียของคุณ พิมพ์ลายตรงลงผ้า คมชัด สีสด เหมือนต้นฉบับ เหมาะกับงานของขวัญ เสื้อทีม เสื้อกลุ่ม เสื้อแฟชั่น

  • รองรับลายพิมพ์ที่ซับซ้อน โดยไม่ต้องทำบล็อก
  • ใช้หมึกคุณภาพสูง ปลอดภัย ซักแล้วไม่หลุดลอกง่าย
More about us

ร้านสกรีน HOSHI อยู่ที่ไหน ?

📍 ร้านสกรีนเสื้อ HOSHI DTG
ตั้งอยู่ที่ อาคารทีวีซี 2 เลขที่ 5257/301
ถนน ประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดง
เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400

🚗 เดินทางสะดวก ใกล้ MRT ห้วยขวาง
🕘 เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 23.00 น.
📞 โทรสอบถามเส้นทางหรือสั่งงานได้ที่: 098-384-5455
📲 Line: @ho-shi

แอดไลน์

ขั้นตอนสั่งสกรีน DTG

  1. เตรียมแบบลายที่ต้องการ – ส่งไฟล์ภาพ (เช่น .PNG, .JPG, .PSD) ความละเอียดสูง หรือติดต่อให้ทีม Hoshi ออกแบบให้ฟรี !
  2. เลือกประเภทเสื้อ – มีให้เลือกหลายแบบ: เสื้อยืดคอกลม, คอวี, เสื้อแขนยาว ฯลฯ เลือกสีและไซซ์ตามต้องการ (S–XXL มีครบ)
  3. แจ้งจำนวนและรายละเอียด – ผลิตได้ตั้งแต่ 1 ตัวขึ้นไป เลือกตำแหน่งพิมพ์ เช่น ด้านหน้า ด้านหลัง หรือแขนเสื้อ
  4. ยืนยันราคาและชำระเงิน – ทางร้านจะแจ้งราคาและระยะเวลาผลิต ชำระผ่านบัญชีธนาคารหรือวอลเล็ตตามที่แจ้ง
  5. เริ่มกระบวนการผลิต – ใช้ระบบพิมพ์ DTG ที่ทันสมัย สีสด คมชัด ทนทาน เหมือนในแบบ 
  6. จัดส่งสินค้า – ตรวจสอบคุณภาพก่อนจัดส่ง มีบริการจัดส่งทั่วประเทศ (เลือกแบบด่วนหรือธรรมดาได้)
สกรีนเสื้อ DTG ราคา
ร้านสกรีนเสื้อ DTG

สกรีนเสื้อ DTG ราคา ?

ราคาสกรีน DTG นั้นจะมีปัจจัยที่สำคัญที่นำมาใช้ในการคำนวณราคาสกรีนประกอบไปด้วย

  • จำนวนเสื้อที่สั่งสกรีน
  • จำนวนสีที่ใช้ใน ความซับซ้อนของลายสกรีน
  • ขนาดและจำนวนจุดสกรีน

ราคาของการพิมพ์เสื้อแบบ DTG จะแตกต่างกันตามปัจจัยที่กล่าวมา โดยทั่วไป ราคาสกรีนเสื้อ DTG จะอยู่ในเรทประมาณนี้ เช่น  สกรีน A4 ด้านเดียว เริ่มต้น 200-300 บาท/ตัว , สกรีน A3 ด้านเดียว เริ่มต้น 350-500 บาท/ตัว , สกรีน A4 สองด้าน (หน้า-หลัง) 400 – 600 บาท/ตัว , สกรีน A3 สองด้าน (หน้า-หลัง) 700 – 850 บาท/ตัว แต่ราคาข้างต้นเป็นราคาคร่าว ๆ เท่านั้นแนะนำส่งไฟล์รูปมาปรึกษาทีมงานให้ประเมิณราคาอย่างละเอียดดีกว่า

ราคาสกรีนเสื้อ

ทำไมควรสกรีนเสื้อแบบ DTG

หนึ่งในจุดเด่นที่ชัดเจนที่สุดของการพิมพ์เสื้อแบบ DTG คือ ความสามารถในการพิมพ์ภาพที่มีรายละเอียดสูง สีสันสดใส และคมชัด แม้จะเป็นลายกราฟิกซับซ้อนหรือภาพถ่ายที่มีความละเอียดมาก ก็สามารถพิมพ์ลงบนเนื้อผ้าได้อย่างแม่นยำ

คุณภาพของ งานสกรีน DTG ยังเหนือชั้นในแง่ของการรักษาความละเอียดของเฉดสี และความแม่นยำของการไล่สี (color gradient) ซึ่งทำให้เหมาะกับงานออกแบบศิลป์ที่ต้องการความเที่ยงตรงของเฉดสี

เทคนิค DTG เปิดโอกาสให้สามารถผลิตงานจำนวนน้อยได้โดยไม่ต้องแบกรับต้นทุนคงที่ที่สูงเหมือนกับการพิมพ์แบบซิลค์สกรีนซึ่งต้องมีการทำบล็อกพิมพ์ในแต่ละสี การผลิตเสื้อพิมพ์ลาย 1 ตัวก็สามารถทำได้ทันทีโดยไม่มีขั้นต่ำ

 

รับสกรีนเสื้อ
ทำไมควรสกรีนเสื้อแบบ DTG

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ DTG

สอบถามเพิ่มเติม

DTG (Direct to Garment) คือการพิมพ์ลายลงบนผ้าโดยตรงด้วยเครื่องพิมพ์เฉพาะที่ใช้หมึกน้ำ ทำให้ได้ลวดลายที่ละเอียด คมชัด และสีสันสดใส เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการรายละเอียดสูง เช่น ภาพถ่ายหรือภาพวาดกราฟิก

DTG เหมาะที่สุดกับ ผ้าฝ้าย 100% เพราะเส้นใยของฝ้ายสามารถดูดซับหมึกได้ดี ทำให้ภาพพิมพ์ติดทนและสีสด หากใช้ผ้าผสมโพลีเอสเตอร์ สีอาจไม่คมชัดเท่

ถ้าดูแลอย่างถูกต้อง เสื้อที่พิมพ์ด้วย DTG จะอยู่ได้ นานถึง70-80 การซัก โดยที่ลายพิมพ์ยังคงคมชัด แต่ควร ซักด้วยน้ำเย็น กลับด้านเสื้อก่อนซัก และ ไม่ควรปั่นแห้งแรง ๆ

  • DTG เหมาะกับงานพิมพ์จำนวนน้อย รายละเอียดเยอะ ไม่มีค่าบล็อก

  • ซิลค์สกรีน เหมาะกับงานจำนวนมาก ลวดลายไม่เปลี่ยนบ่อย สีทน แต่มีค่าทำบล็อก

ได้ ! เครื่อง DTG ที่มีคุณภาพสามารถพิมพ์หมึกสีขาวลงบนเสื้อสีเข้มได้ โดยจะมีการพ่นชั้น หมึกสีขาวรองพื้นก่อน แล้วค่อยพิมพ์สีอื่นๆ ทับลงไป

ส่วนใหญ่ ไม่กำหนดขั้นต่ำ เพราะ DTG เป็นระบบพิมพ์ดิจิทัล จึงเหมาะมากกับการพิมพ์เสื้อตัวเดียวหรือจำนวนน้อยๆ

ราคาจะแตกต่างตาม

  • สีเสื้อ (เสื้อสีเข้มจะราคาสูงกว่า เพราะต้องใช้หมึกขาวรองพื้น)

  • ขนาดของลายพิมพ์

  • จำนวนที่สั่ง โดยทั่วไปเริ่มต้นที่ 300 – 600 บาทต่อตัว 

ซักได้ ! แต่แนะนำให้

  • กลับด้านเสื้อก่อนซัก

  • ใช้น้ำเย็น

  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาฟอกขาว

  • หลีกเลี่ยงการอบร้อน