สกรีน DFT คืออะไร แล้วถ้าสกรีน สกรีน DFT ดีไหม หรือ DTF กับ DFT ต่างกันยังไง แต่ก่อนอื่นเพื่อให้เข้าใจภาพรวมเกี่ยวกับงาน สกรีนเสื้อ ขอเกริ่นนำเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้คร่าว ๆ ก่อน งานสกรีนเสื้อเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการของตลาดที่สูง ทั้งในกลุ่มลูกค้าทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการใช้ เสื้อสกรีน เป็นสื่อโฆษณาหรือเสื้อทีม หรือสกรีนเพื่อใช้ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ปัจจุบัน เทคโนโลยีการสกรีนเสื้อได้พัฒนาไปมาก มีวิธีการหลากหลายที่ช่วยให้การผลิตสะดวกขึ้น มีความคงทนสูงขึ้นของงานสกรีน และสามารถรองรับงานในระดับต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น ซิลค์สกรีน (Silkscreen Printing) , DTG (Direct to Garment) , Heat Transfer (รีดร้อน) , DTF (Direct to Film) โดยแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไปตามประเภทของผ้า ปริมาณการผลิต และงบประมาณที่ใช้
โดยในบทความนนี้เราจะมาเจาะลึก ทำความเข้าใจกับงานสกรีนเสื้อด้วยเทคนิคการ สกรีนเสื้อแบบ DFT หรือ DTF รวมไปถีง สกรีน DFT ข้อเสีย และข้อดีมีอะไรบ้าง เพราะปัจจุบันถือเป็นอีกเทคนิคการสกรีนทีมีความทันสมัย งานสกรีนมีคุณภาพ ให้สีสันของงานสวยคมชัด และที่สำคัญงาน สกรีน DFT ยังรองรับการสกรีนกับเนื้อผ้าที่หลากหลาย รวมทั้งยังมีต้นทุนการสกรีนที่ต่ำอีกด้วย
เลือกหัวข้อที่สนใจ
สกรีน DFT คือ
การสกรีนเสื้อแบบ DFT (Direct Film Transfer) จะเป็นเทคนิคการพิมพ์ลาย สกรีนลงบนเสื้อโดยใช้ฟิล์มพิเศษ และหมึกพิมพ์พิเศษเฉพาะที่ใช้กับผ้า รวมถึงกาวรีดร้อน โดยวิธีนี้ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสามารถพิมพ์ลายที่มีรายละเอียดซับซ้อนได้ให้ผลงานของการสกรีนเสื้อที่ สีสด คมชัด และติดทนบนผ้าหลากหลายชนิดได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องสีของเนื้อผ้าเหมือนเทคนิคการสกรีนแบบ DTG
การสกรีนเสื้อแบบ DFT เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการงานพิมพ์คุณภาพสูง คมชัด สีสด ทนทาน และสามารถใช้ได้กับผ้าหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นการผลิตจำนวนน้อยหรือมากก็ทำได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องสีและประเภทของเนื้อผ้า
หากคุณกำลังมองหา ร้านสกรีนเสื้อ คุณภาพสูง Hoshi Kaizen พร้อมให้บริการแบบมืออาชีพ ด้วยเทคนิค DFT, Silkscreen และ DTG ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ!
DFT สกรีนเสื้อ มีขั้นตอนอย่างไร
-
พิมพ์ลายลงบนฟิล์มพิเศษ
เริ่มต้นด้วยการออกแบบลายที่ต้องการพิมพ์ จากนั้นนำไปพิมพ์ลงบนฟิล์ม DFT ด้วยเครื่องพิมพ์ที่ใช้หมึก Pigment Ink ซึ่งมีคุณสมบัติให้สีสด คมชัด และติดทนนาน กระบวนการนี้ช่วยให้ลายพิมพ์มีรายละเอียดครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นไล่เฉดสีหรือเส้นขนาดเล็ก -
เคลือบกาวลงบนลายพิมพ์
หลังจากพิมพ์เสร็จ ฟิล์มจะถูกนำไปเคลือบด้วยกาวพิเศษที่สามารถยึดติดกับเนื้อผ้าได้อย่างแน่นหนา กาวนี้จะถูกโรยเป็นชั้นบาง ๆ ทั่วลายพิมพ์ และผ่านกระบวนการให้ความร้อนเพื่อทำให้กาวเกาะติดกับหมึกอย่างสมบูรณ์ -
ใช้เครื่องรีดร้อน (Heat Press) รีดฟิล์มลงบนเสื้อ
ฟิล์มที่พิมพ์และเคลือบกาวแล้วจะถูกนำมาวางบนเสื้อ จากนั้นใช้เครื่อง Heat Press รีดด้วยอุณหภูมิและแรงกดที่เหมาะสม โดยทั่วไปจะใช้ความร้อนประมาณ 150-160°C และใช้เวลารีดประมาณ 10-15 วินาที เพื่อให้กาวละลายและยึดติดกับเสื้อได้แน่นหนา -
ลอกฟิล์มออก
หลังจากรีดแล้ว ต้องปล่อยให้เย็นลงก่อน จากนั้นจึงลอกฟิล์มออกอย่างระมัดระวัง เมื่อฟิล์มถูกลอกออกแล้ว จะเหลือเพียงลายพิมพ์ที่ติดแน่นกับเนื้อผ้าอย่างสวยงาม สีสด และไม่แตกหรือลอกง่าย -
รีดร้อนย้ำลายสกรีนอีกรอบ
เพื่อให้งานหมึกสกรีน DFT และกาวยึดติดได้ดียิ่งขึ้นขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นการใช้เครื่องรีดร้อน ทำการรีดทับอีกรอบเพื่อให้งานสกรีนเซ้ตตัวอย่างสมบูรณ์ (ขั้นตอนสำคัญหากไม่ย้ำ ก็จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง ลายสกรีนหลุดลอกเร็ว)
👉👉👉 บทความเกี่ยวกับการสกรีน DFT สกรีนยังไง Direct to Film (DTF) Printing Process – Step by Step
เครื่องสกรีน DFT อุปกรณ์ที่ใช้สกรีน
เครื่องพิมพ์ DFT + เครื่องอบฟิล์ม
-
เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้หมึก Pigment หรือหมึกพิเศษสำหรับ DFT โดยเฉพาะ
-
ต้องรองรับการพิมพ์ลงบนฟิล์ม DFT ได้อย่างแม่นยำและคมชัด
- เครื่องอบฟิล์ม ใช้สำหรับให้ความร้อนแก่กาวผง เพื่อให้กาวละลายและยึดติดกับหมึกพิมพ์
ฟิล์ม DFT (Direct Film Transfer Film)
-
ฟิล์มพิเศษที่ใช้รองรับหมึกพิมพ์ เพื่อให้ลายพิมพ์สามารถถ่ายโอนไปยังผ้าได้อย่างสมบูรณ์
-
มีความโปร่งใสและมีพื้นผิวที่ช่วยให้หมึกยึดติดได้ดี
หมึกพิมพ์ DFT (Pigment Ink + White Ink)
-
ประกอบด้วยหมึกสี (CMYK) และหมึกสีขาว (White Ink) ซึ่งจำเป็นสำหรับการพิมพ์บนผ้าสีเข้ม
-
มีคุณสมบัติกันน้ำและทนต่อการซัก
กาวผง DFT (DTF Hot Melt Powder)
-
เป็นกาวพิเศษที่ใช้เคลือบลายพิมพ์เพื่อช่วยให้ติดกับเนื้อผ้าได้แน่นหนา
-
มีหลายเกรดขึ้นอยู่กับประเภทของผ้าที่ใช้
เครื่องรีดร้อน (Heat Press Machine)
-
ใช้รีดฟิล์มลงบนเสื้อโดยใช้ความร้อนและแรงกดที่เหมาะสม
-
มีทั้งแบบกดมือและแบบอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับขนาดการผลิต
ซอฟต์แวร์ออกแบบและจัดการพิมพ์
-
โปรแกรมที่ใช้ในการออกแบบลายพิมพ์ เช่น Photoshop, Illustrator หรือ RIP Software ที่ช่วยจัดการการพิมพ์ให้แม่นยำขึ้น
DTF กับ DFT ต่างกันยังไง
หลายคนอาจเคยได้ยินทั้งคำว่า DTF (Direct to Film) และ DFT (Direct Film Transfer) แล้วสงสัยว่าทั้งสองเทคนิคนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร หรือ จริง ๆ แล้วมันเกี่ยวข้องกัน DTF กับ DFT ต่างกันยังไง จริง ๆ แล้วเป็นคำที่หมายถึงเทคนิคเดียวกับ DTF แต่เป็นชื่อที่บางแห่งใช้เรียกแทนกัน อย่างไรก็ตาม การเรียกที่ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลคือ DTF
DTF (Direct to Film) เป็นชื่อที่ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลสำหรับเทคนิคการพิมพ์เสื้อผ้าและวัสดุสิ่งทอโดยใช้ฟิล์มเป็นตัวกลาง ดังนั้น ถ้าหมายถึง เทคนิคการพิมพ์เสื้อผ้าแบบพิมพ์ลงฟิล์มแล้วรีดลงบนผ้า ✅ ควรเรียกว่า DTF เท่านั้น เพื่อความถูกต้องและเข้าใจตรงกัน! 😃 แต่อย่างไรก็ตามด้วยความคุ้นชินของคนในวงการสกรีนเสื้อไทย ทำให้คำว่า DFT ถูกใช้มากกว่าในประเทศไทย
สกรีน DFT ดีไหม ? ข้อดี
เทคนิคการพิมพ์เสื้อที่กำลังมาแรง DTF (Direct to Film) หรือที่บางคนเรียกผิดว่า DFT (แต่จริง ๆ ควรเรียก DTF ! ) เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมสุด ๆ ในวงการงาน สกรีนเสื้อ เพราะสามารถพิมพ์ลายลงบนผ้าได้เกือบทุกชนิด สีสวยสด ทนทาน และที่สำคัญ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องสีของเนื้อผ้า จะเป็นเนื้อผ้าชนิดไหน DFT ก็เอาอยู่หมดสกรีนได้หมด
แล้ว สกรีน DFT ดีไหม ? มาดูข้อดีของมันกันเลย!
ข้อดี งานสกรีน DTF / DTF
1. พิมพ์ได้ทุกสี ทุกผ้า ไม่จำกัดพื้นผิว 🎨👕
🟩 เทคนิค DTF สามารถพิมพ์ลายได้ทั้งบนเสื้อ สีอ่อนและสีเข้ม ต่างจากบางเทคนิคที่อาจใช้ได้เฉพาะบนผ้าสีขาวหรือสีอ่อน นอกจากนี้ยังพิมพ์ลงบนวัสดุอื่น ๆ ได้ เช่น ผ้าฝ้าย (Cotton), โพลีเอสเตอร์ (Polyester), ผ้าสแปนเด็กซ์ (Spandex), ผ้ายีนส์, หนังเทียม และอื่น ๆ
2. สีสด คมชัด และติดทน ไม่หลุดลอกง่าย 🖨✨
🟩 หมึกพิมพ์ที่ใช้กับ DTF เป็นหมึก Pigment Ink ซึ่งให้สีที่คมชัดและติดแน่นกับเสื้อผ้า ไม่แตก ไม่ลอก ไม่ซีดง่าย แม้จะซักบ่อย ๆ ต่างจากงานสกรีนบางประเภทที่อาจซีดจางเร็ว
3. ยืดหยุ่น ไม่แข็งกระด้าง 🏃♂️💨
🟩 DTF ให้สัมผัสที่นุ่มกว่าเทคนิคบางแบบ เช่น งานสกรีนพลาสติกหรือบางงานไวนิล ลายพิมพ์จะ ยืดหยุ่นตามเนื้อผ้า ไม่แตกร้าวง่าย ใส่สบายแม้เป็นลายใหญ่
4. งานพิมพ์ไม่ต้องมีบล็อก สั่งจำนวนน้อยก็ได้ 🛍️🔥
🟩 ต่างจากงานสกรีนแบบซิลค์สกรีนที่ต้องทำบล็อก DTF ไม่ต้องใช้บล็อก ทำให้สามารถพิมพ์ลายที่มีรายละเอียดเยอะได้ง่าย ๆ และที่สำคัญ สั่งพิมพ์จำนวนน้อยก็ได้ ไม่ต้องทำทีละเยอะ ๆ
5. กระบวนการง่าย และรวดเร็ว ⚡⏳
🟩 การพิมพ์ DTF ไม่ซับซ้อนมากนัก แค่ พิมพ์ลายลงบนฟิล์ม → โรยกาว → อบให้กาวละลาย → รีดลงบนเสื้อ ก็ได้งานพิมพ์ที่คงทนในเวลาไม่นาน ต่างจากบางเทคนิคที่ต้องผ่านหลายขั้นตอน
สกรีน DFT ทนไหม ?
โดยทั่วไป งานสกรีน DTF มีความทนทานสูง เมื่อเทียบกับการพิมพ์แบบอื่นๆ เช่น Sublimation หรือ Heat Transfer Vinyl แต่ก็น้อยกว่าสกรีนเสื้อแบบบล็อกสกรีน โดยคุณสมบัติที่การสกรีนแบบ DFT ทนทานนั้นเนื่องจากใช้หมึกพิเศษและกาวร้อนช่วยยึดติดกับเนื้อผ้า ทำให้ลายพิมพ์แน่น ไม่หลุดลอกง่าย อย่างไรก็ตาม ความทนทานของงานสกรีนแบบ DFT อาจแตกต่างกันแต่ละร้าน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น
- คุณภาพของฟิล์มและหมึกพิมพ์และกาวร้อน หากใช้วัสดุคุณภาพดี สีจะติดแน่น ไม่แตกหรือซีดง่าย
- กระบวนการรีดร้อน (Heat Press) การกดด้วยแรงดันและอุณหภูมิที่เหมาะสมช่วยให้หมึกยึดติดกับผ้าได้ดีขึ้น
- การดูแลรักษาเสื้อผ้า แนะนำให้ซักด้วยน้ำเย็น ห้ามใช้น้ำยาฟอกสี และกลับด้านเสื้อก่อนซักเพื่อลดการเสียดสี
โดยสรุป สกรีน DFT ทนไหม ก็ต้องบอกว่า งานสกรีน DTF มีความทนทานสูงหากใช้วัสดุคุณภาพดีและดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ทำให้เหมาะสำหรับงานพิมพ์เสื้อที่ต้องการความคงทนและสีสันสดใส หากคุณกำลังมองหางานสกรีนเสื้อคุณภาพสูง เทคนิค DTF (Direct to Film) คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะให้สีสด คมชัด และติดทนนานกว่าวิธีอื่นๆ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเลือกผู้ให้บริการที่มีคุณภาพ และ HOSHI KAIZEN คือคำตอบที่คุณมั่นใจได้ ! ข้อดีของงานสกรีน DTF ที่ HOSHI KAIZEN คือ เราเลือกใช้หมึกและฟิล์มคุณภาพสูงเกรดฟรีเมี่ยม หมึกไม่แตก ไม่ซีดจางง่าย แม้ซักหลายครั้ง ใช้เครื่องจักรและเทคนิคที่ทันสมัย ทำให้งานออกมาเรียบเนียน สีไม่หลุดลอก
สกรีน DFT ข้อเสีย ?
แม้ว่างานสกรีนเสื้อแบบ DFT จะมีข้อดีมากมาย แต่เทคนิค DFT ก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกใช้งานสกรีนแบบนี้ คือ ต้นทุนการผลิตต่อหน่วย จำนวนการสั่งสกรีน จำนวนสีหรือลวดลายที่ต้องการสกรีน รวมไปถึงการดูแลรักษาเสื้อสกรีนหลังการใช้งาน
แม้ว่าการสกรีน DTF จะมีสีสันสดใส แต่ความทนทานของงานพิมพ์อาจไม่เท่ากับเทคนิคการพิมพ์แบบ Silkscreen หรือ DTG โดยเฉพาะหากการซักอย่างไม่ถูกวิธี งานพิมพ์อาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่คาดไว้ เช่น การแตกลายหรือสีซีดลงหลังจากผ่านการซักหลายครั้งได้ สกรีน DFT ข้อเสีย มาดูกันเลยว่า ข้อเสียงานสกรีนแบบ DFT ว่ามีอะไรบ้าง ?
ข้อเสียงาน สกรีน DTF / DTF
1. ต้นทุนวัสดุและอุปกรณ์สูง
การสกรีนเสื้อด้วยระบบ DTF ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะ เช่น เครื่องพิมพ์ที่รองรับหมึก DTF, แผ่นฟิล์ม DTF, ผงกาว DTF และเครื่องรีดร้อน ซึ่งมีต้นทุนเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ หมึก DTF ยังมีราคาสูงกว่าหมึกพิมพ์ประเภทอื่น เช่น หมึกซับลิเมชั่นหรือหมึกพิมพ์ DTG ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยของการผลิตอาจสูงขึ้น
2. กระบวนการทำงานหลายขั้นตอน
แม้ว่าการพิมพ์ DTF จะสะดวกในบางด้าน แต่กระบวนการทำงานมีหลายขั้นตอน เช่น 1) การพิมพ์ลงบนฟิล์ม DTF 2) การโรยผงกาวและอบให้แห้ง 3) การรีดฟิล์มลงบนเสื้อด้วยความร้อน 4) การลอกฟิล์มออกให้ได้งานพิมพ์ที่สมบูรณ์ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ใช้เวลาและต้องอาศัยความละเอียดในการทำงาน หากมีข้อผิดพลาดในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง อาจทำให้คุณภาพของงานพิมพ์ลดลง
3. ความทนทานของงานพิมพ์อาจน้อยกว่าการสกรีนประเภทอื่น
แม้ว่าการสกรีน DTF จะมีสีสันสดใส แต่ความทนทานของงานพิมพ์อาจไม่เท่ากับเทคนิคการพิมพ์แบบ Silkscreen หรือ DTG
4. ความยืดหยุ่นของลายพิมพ์
งานพิมพ์ DTF มักจะมีพื้นผิวที่หนากว่าการพิมพ์แบบ DTG หรือการสกรีนด้วยน้ำหมึกพลาสติซอล ทำให้เนื้อผ้าอาจรู้สึกแข็งหรือไม่สบายตัว โดยเฉพาะเมื่อต้องพิมพ์ลายขนาดใหญ่ นอกจากนี้ หากใช้ฟิล์มและหมึกที่ไม่มีคุณภาพดี อาจทำให้ลายพิมพ์แตกหรือหลุดร่อนเร็วขึ้น
5. การควบคุมคุณภาพยุ่งยาก
การพิมพ์ DTF ต้องใช้เทคนิคที่แม่นยำในการควบคุมอุณหภูมิและเวลาในการรีดร้อน หากอุณหภูมิสูงเกินไป อาจทำให้ลายพิมพ์ไหม้หรือสีผิดเพี้ยนได้ ในทางกลับกัน หากอุณหภูมิหรือน้ำหนักกดไม่เพียงพอ อาจทำให้ลายพิมพ์ไม่ติดแน่นกับผ้า และหลุดออกได้ง่าย
สกรีน DFT รีดได้ไหม ?
การสกรีน DFT (Direct Film Transfer) โดย สกรีน DFT รีดได้ไหม คำตอบคือ สามารถรีดได้ แต่จะต้องระมัดระวังในกระบวนการรีด เสื้อที่สกรีนด้วยเทคนิค DFT (Direct Film Transfer) สามารถรีดด้วยเตารีดได้ แต่ควรระมัดระวังในการตั้งอุณหภูมิของเตารีด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายกับลายสกรีนหรือเนื้อผ้าโดยรวม
คำแนะนำในการรีดเสื้อที่สกรีนด้วย DFT
- ตั้งอุณหภูมิของเตารีด: ควรใช้ความร้อนต่ำหรือปานกลาง หากเสื้อเป็นผ้าที่บอบบาง เช่น ผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์ หรือผ้าหนาๆ ควรตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม
- ใช้ผ้าห่มหรือผ้าคลุมหรือกระดาษไข ควรวางผ้าบางๆ ทับลายสกรีนเพื่อป้องกันไม่ให้ฟิล์มสกรีนหลุดหรือเสียหายจากการสัมผัสโดยตรงกับเตารีด
- รีดจากด้านใน: ควรรีดจากด้านในของเสื้อเพื่อป้องกันไม่ให้ฟิล์มถูกทำลายจากการสัมผัสกับความร้อนโดยตรง
- หลีกเลี่ยงการรีดบริเวณลายสกรีนมากเกินไป: ควรรีดอย่างเบามือในส่วนที่เป็นลายสกรีนและไม่ให้เตารีดสัมผัสกับลายสกรีนมากเกินไป
ทำไมควรสกรีนเสื้อแบบ DFT
ถ้าคุณกำลังตัดสินใจอยู่ว่า จะเลือกสกรีนเสื้อด้วยเทคนิคแบบไหนดี แล้วการสกรีนเสื้อแบบ DFT ตอบโจทย์คุณหรือไม่ ? นี้คือข้อมูลที่จะตอบคุณได้ว่า วัตถุประสงค์ในการสกรีนเสื้อของคุณเหมาะกับงาน DFT หรือไม่
การสกรีนเสื้อแบบ DFT (Direct Film Transfer) มีข้อดีหลายอย่างที่ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจสกรีนเสื้อ โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการความคมชัดของลายพิมพ์และความยืดหยุ่นในการผลิตแบบไม่มีขั้นต่ำ
- งานพิมพ์คมชัด สีสด และทนทาน
- ใช้ได้กับผ้าหลากหลายชนิด
- พิมพ์สีได้ครบ ไม่จำกัดจำนวนสี
- ไม่มีขั้นต่ำ และผลิตได้เร็ว
- สัมผัสบางและนุ่มกว่าฟล็อกหรือเฟล็กซ์
- รองรับลายที่ซับซ้อนและมีรายละเอียดเล็ก ๆ
- กระบวนการผลิตง่ายกว่า DTG
✅ DFT พิมพ์ลายลงบนฟิล์มก่อน แล้วนำไปรีดร้อนติดเสื้อ สามารถพิมพ์ได้ทุกสี และใช้ได้กับผ้าหลายประเภท
✅ DTG พิมพ์หมึกลงเสื้อโดยตรง เหมาะกับผ้าฝ้าย 100% และต้องพ่นน้ำยา Pre-Treatment
✅ บล็อกสกรีน เหมาะกับงานจำนวนมาก ใช้บล็อกสกรีนทีละสี ต้นทุนต่อหน่วยต่ำแต่ต้องมีขั้นต่ำ
✔️ ใช้ได้กับผ้าหลากหลาย เช่น Cotton, Polyester, ผ้าผสม, ไนลอน, ผ้ายืด ฯลฯ
✔️ ใช้ได้ทั้งเสื้อสีอ่อนและสีเข้ม โดยไม่ต้องรองพื้น
- ✔️ ทนการซักมากกว่า 100 ครั้ง หากซักและตากอย่างถูกวิธี
- ✔️ ไม่หลุดลอกง่ายเหมือนสติ๊กเกอร์ไวนิล
- ✔️ สีไม่ซีด ไม่จางเหมือนงาน DTG เมื่อใช้ไปนาน ๆ
เพราะฉะนั้นคำถามที่ว่า สกรีน DFT ทนไหม ก็ต้องบอกว่าคุณคงพอได้คำตอบแล้ว จากนี้คงขึ้นอยู่กับงานสกรีนที่คุณจะเลือกเปรียบเทียบแล้วละครับว่าตอบโจทย์ของคุรหรือไม่
✅ ซักด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติ
✅ กลับด้านเสื้อก่อนซัก เพื่อลดการเสียดสีของลายพิมพ์
✅ หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องอบร้อน ควรตากในที่ร่ม
✅ ห้ามรีดโดยตรงบนลายสกรีน ถ้าต้องรีด ควรใช้ผ้ารอง
✔️ ได้! พิมพ์ได้ทุกสี รวมถึงไล่เฉดสี (Gradient) และลายเส้นเล็ก ๆ ได้คมชัด
- ถ้ากรณีลูกค้าสั่งสกรีนเกิน 100 ตัวขึ้นไป ราคาบล็อกสกรีนจะยิ่งมีแนวโน้มถูกลง เพราะเมื่อผลิต 1-100 ตัวงาน DFT จะทำราคาได้ถูกกว่า แต่เมื่อเกิน 100 ตัว ต้นทุนคงที่ของงานสกรีน DFT จะไม่สามารถลดลงได้มากนัก
- สีที่ใช้ในการผลิต
- ค่าเดินเครื่องพิมพ์
- ต้นทุนอื่น ๆ
- แต่ถ้างานของคุณต้องการสกรีนไม่เกิน 100 ตัว ทางเลือกในการสกรีนแบบ DFT ยังให้ความประหยัดและคุ้มค่ากว่ามาก
✔️ ได้แน่นอน! มีการเคลือบชั้นสีขาวใต้ลาย ทำให้สีชัดเจนบนเสื้อสีเข้ม
🔹 ไม่มีขั้นต่ำ รับทำตั้งแต่ 1 ตัว
🔹 พิมพ์ได้ทุกสี และไล่เฉดได้
🔹 ใช้เสื้อคุณภาพสูง รีดง่าย ไม่ยับ ไม่หด ไม่ย้วย
🔹 งานสกรีนทนทาน ซักได้หลายครั้ง สีไม่ลอกง่าย
🔹 บริการครบวงจร รับสกรีนทั้ง DFT, ซิลค์สกรีน และ DTG